ในงานต้อนรับข้าหลวงคนใหม่ บุหงา ( บุษกร พรวรรณะศิริเวช ) ได้ออกมารำ “ตารีบุหงา” จนเป็นที่ประทับใจต่อ ขุนอัฐ ( จอนนี่ แอนโฟเน่ ) กลายเป็นรักแรกพบต่อกัน แล้วไม่นานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็แนบแน่นลึกซึ้งขึ้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เมื่อขุนอัฐถูกเรียกตัวไปราชการด่วน และถูกนายหัว กับ ฆาเยาะห์ ( ภาณุเดช วัฒนสุชาติ ) หนุ่มผู้หลงรักบุหงากีดกัน ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน แต่ก่อนจาก ทั้งสองได้แลก “กริช” แก่กัน และใช้กริชนั้นกรีดเลือดที่ฝ่ามือเป็นการสาบานว่าต่างฝ่ายต่างได้มอบชีวิตไว้ให้แก่กัน ขุนอัฐให้สัญญากับบุหงาว่าจะกลับมารับเธอไปอยู่ด้วยใน วันแรม 15 ค่ำ หรือวันส่งผีตายาย บุหงาตั้งตาคอยขุนอัฐด้วยความหวัง แต่แล้วนายหัวกลับบังคับให้เธอแต่งงานกับฆาเยาะห์ ในวันเดียวกับที่ทั้งคู่นัดหมายกัน ท้องฟ้าเกิดปั่นป่วน แต่ฆาเยาะห์ยังคิดรวบรัดบุหงา บุหงาขัดขืน โดยใช้กริชแทงฆาเยาะห์ และหนีออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ค่อม ( ไกรลาศ เกรียงไกร ) บ่าวรับใช้อัปลักษณ์ผู้ภักดี บุหงาไปที่หาดซึ่งเป็นสถานที่นัดหมาย ส่วนค่อมถูกพวกของฆาเยาะห์ ซึ่งมี เอียด กล่ำ และรัญจวน ( ฟร้อนท์ มอนโกเมอรี่ ) ชู้รักของฆาเยาะห์จับตัวไว้ คืนนั้นค่อมถูกทรมานอย่างหนัก ค่อมจึงสาปแช่งว่าจะกลับมาจองเวรทุกคนที่ทำกับมันไว้ ทางด้านบุหงาที่รอคอยขุนอัฐแต่ไร้วี่แวว จนฆาเยาะห์ตามมาทัน ก็หมดทางที่จะหนีต่อไป จึงตัดสินใจใช้กริชที่เคยใช้สาบานรักแทงตัวตาย ขณะที่ท้องฟ้าเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงพอดี ปี 2547 ร้อยปีผ่านไป วิญญาณของบุหงายังคงวนเวียนอยู่ที่หาด บนเกาะลั่นทม เพื่อรอคอยชายคนรักจนชาวบ้านร่ำลือว่าเป็น “หาดนางรอ” และปีนี้ก็เป็นปีที่บ่วงกรรมจะกลับมาย้อนรอยเดิมอีกครั้ง อัษฎา ( จอนนี่ แอนโฟเน่ ) ผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มีคนรักชื่อ กุลจิรา ( อริศรา วงษ์ชาลี ) แต่ความรักของทั้งคู่เหมือนมีอะไรมาขวางกั้น เพราะลึกๆ แล้วอัษฎารู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังรอเขาอยู่ อัษฎามีความฝันซ้ำซากเกี่ยวกับผู้หญิง กริช และเลือดมาตลอด ยิ่งใกล้วันแรม 15 ค่ำ ความฝันนั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที และรอยแผลเป็นที่ฝ่ามือซึ่งมีติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็เริ่มเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ จนวันหนึ่ง โชคชะตาได้พาให้เขากลับมาที่เกาะลั่นทมอีกครั้ง เมื่อกำนันด้วง ( สีหนุ่ม เชิญยิ้ม ) นำที่ดินที่หาดนางรอมาเสนอขาย อัษฎาจึงตัดสินใจไปสำรวจที่ดินที่เกาะลั่นทม เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย กำนันด้วงกำชับ นายนุ้ย ( วิชัย จงประสิทธิ์พร ) ลูกน้องคนสนิทว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องบนหาดให้อัษฎารู้เด็ดขาด โดยไม่สนคำเตือนของ แม่เฒ่าจันทร์ ( ฉันทนา กิติยะพันธ์ ) หมอดูประจำเกาะที่ทำนายว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นระหว่างที่สำรวจเกาะอยู่ อัษฎาก็ได้ยินเสียงเพลงคุ้นหู ซึ่งนำพาเขาไปสู่เรือนมนิลา ทำให้เขาได้พบกับบุหงาโดยไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่เหมือนว่าเขาเคยรู้จักเธอมาก่อน บุหงาเองก็เฝ้ารอวันที่อัษฎาจะจำอดีตได้ เพื่อทวงสัญญาที่เขาได้มอบชีวิตให้แก่เธอ วิทย์ ( คงกะพัน แสงสุริยะ ) เพื่อนรักหุ้นส่วนของอัษฎาคัดค้านเรื่องซื้อที่บนเกาะลั่นทม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ความตั้งใจของอัษฎาที่จะสร้างเป็นรีสอร์ท วิทย์จ้างทีมงานมาคุมการก่อสร้าง แต่ผู้ที่มากลับกลายเป็นพวก คชา ( ฆาเยาะห์ ), อ่ำ ( เอียด ), กล้า ( กล่ำ ) และรัญญา ( รัญจวน ) แทน ซึ่งการมาของคนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์เพื่อตามหากริช ตามคำสั่งของ คุณเผ่า ทายาทตระกูลบริรักษ์ ลูกหลานของขุนอัฐ ที่ทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อตามหากริชคู่ของต้นตระกูลกลับคืนมาอัษฎาเวียนมาหาบุหงาทุกวัน และฟังเรื่องที่เธอเล่าเกี่ยวกับคนรักเก่าที่หายไปของเธอ วิทย์เริ่มสงสัยที่อัษฎาหายไปทุกคืน จนได้เห็นรูปวาดบุหงาที่อัษฎาสเก็ตไว้ คชากลัวอัษฎาจะได้กริชไปจึงคิดวางแผนฆ่า จนบุหงาไม่อาจทนนิ่งเฉยต่อไปได้ เพราะหากอัษฎาตายเพราะคนอื่น เธอก็จะไม่ได้วิญญาณของเขาไป ในคืนหนึ่งคชาลอบเข้าไปในห้องพักของอัษฎาเพื่อฆ่าปิดปาก แต่หลังจากใช้เชือกรัดคออัษฎาจนสิ้นลมแล้ว คชาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าศพนั้นกลายเป็นอ่ำลูกน้องของตน วิทย์ขอร้องให้แม่เฒ่าจันทร์เล่าเรื่องตำนานเกี่ยวกับคำสาป และวิญญาณหญิงสาวที่รอคอยคนรักให้ฟัง ซึ่งหลังจากที่วิทย์ได้รูปหญิงสาวในตำนานจากกำนันด้วงมา ก็จำได้ว่าเป็นคนๆ เดียวกับรูปที่อัษฎาสเก็ตภาพไว้ ทำให้เริ่มแน่ใจว่า “บุหงา” ก็คือวิญญาณที่รอคอยคนรักอยู่ และคนที่เธอรออยู่ก็คือ “อัษฎา” วิทย์หาทางที่จะพิสูจน์ว่าบุหงาไม่ใช่คน จนทำให้ทะเลาะกับอัษฎารุนแรง แต่ขณะที่อัษฎาและบุหงากำลังจะมีความสัมพันธ์กัน อัษฎาเริ่มมองเห็นอดีตของตัวเอง เพราะมนต์ของบุหงาเริ่มเสื่อม อัษฎาตกใจที่ได้เห็นหน้าที่แท้จริงของบุหงา และรู้ความจริงในที่สุด วิทย์และแม่เฒ่าจันทร์ช่วยพาอัษฎาหนีออกจากเกาะ แต่เขากลับสลัดภาพในความทรงจำทิ้งไปไม่ได้ อัษฎาพยายามปิดบังไม่ให้กุลรู้เรื่องบุหงา แต่วิญญาณของบุหงาตามมาอาละวาด และเข้าสิงร่างของกุลแทน เพื่อที่ตนเองจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับอัษฎา อัษฎาไปค้นประวัติตัวเอง จนรู้ว่าตัวเองคือขุนอัฐเมื่อชาติที่แล้ว อัษฎาตัดสินใจกลับไปเพื่อจะไปล้างพันธะสัญญาและปลดปล่อยวิญญาณบุหงาให้เป็นอิสระ จึงนำกริชคู่ซึ่งเป็นของขุนอัฐและบุหงาไปด้วย แต่คชากลับเข้ามาขวาง จนต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ บุหงาได้เป็นเจ้าของวิญญาณอัษฎาสำเร็จ ส่วนร่างของอัษฎานอนหลับเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ ถ้าผ่านวันแรม 15 ค่ำไปแล้ว อัษฎายังไม่ฟื้นขึ้นมา จะต้องหลับไปตลอดกาล กุลและวิทย์จะทำอย่างไร เมื่อวิญญาณอัษฎาอยู่ในมือของบุหงา และบุหงาคงไม่ยอมปล่อยวิญญาณของอัษฎาไปง่ายๆ หลังจากการรอคอยเป็นร้อยปีได้สำเร็จสมดั่งใจ แต่การรอคอยของ กุลและวิทย์เพิ่งจะเริ่มขึ้น.
|