วันที่ 11 กันยายน ปี 2001 คือวันที่นิวยอร์กมีอากาศอบอุ่นเป็นพิเศษ วิลล์ จิมีโน่ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีพอร์ตออธอริตี้ (ไมเคิล พีน่า) อยากที่จะใช้วันหยุดส่วนตัวของเขาด้วยการเพลิดเพลินไปกับงานอดิเรก แต่สุดท้าย เขาตัดสินใจที่จะไปทำงาน สิบเอกจอห์น แม็คลัฟลิน(นิโคลัส เคจ) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุกคนนับถือประจำสถานีตำรวจพอร์ตออธอริตี้ ออกเดินทางไปทั่วเมืองโดยใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พวกเขากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปยังย่านใจกลางเมืองแมนฮัตตันเหมือนที่เคยทำในวันอื่นๆ เพียงแต่วันนี้ไม่ใช่วันอื่นๆ
ทีมตำรวจพีเอพีดีเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกที่ขับรถจากใจกลางเมืองแมนฮัตตัน เพื่อไปยังเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ผู้ชายห้าคน ซึ่งรวมถึงแม็คลัฟลินและจิมีโน่ เดินเข้าไปในตึก และติดอยู่ภายในตึกนี้เมื่อตึกแฝดถล่มลงมา แม็คลัฟลิน และจิมีโน่รอดชีวิตอย่างปาฏิหารย์ แต่เขาสองคนถูกฝังและติดอยู่ใต้ซากคอนกรีตและโลหะที่บิดงอ โดยตำแหน่งที่พวกเขาติดอยู่นั้นอยู่ลึกลงไปในซากอิฐซากหินของตึกถึง 20 ฟุต ถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็นกันได้ แต่ต่างฝ่ายต่างได้ยินเสียงว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ และตลอด 12 ชั่วโมงถัดมา แม็คลัฟลินและจิมีโน่พยายามรักษาชีวิตของฝ่ายตรงข้ามไว้ด้วยการพูดคุยกันถึง เรื่องครอบครัว เรื่องราวชีวิตของพวกเขาขณะทำงานเป็นตำรวจ ความหวังของพวกเขา และความผิดหวังของพวกเขา เรื่องราวของพวกเขาถูกถ่ายทอดออกมาในภาพยนตร์ใหม่ของผู้กำกับโอลิเวอร์ สโตน เรื่อง “World Trade Center”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นการติดตามเรื่องราวของภรรยาของพวกเขา (ดอนน่า แม็คลัฟลินในกอสเชน, นิวยอร์ก และอัลลิสัน จิมีโน่ ในคลิฟตัน, นิวเจอร์ซี่ย์), ลูกๆ และพ่อแม่ของพวกเขาที่ต้องทนทุกข์ทรมานไม่แพ้กัน เมื่อไม่มีการติดต่อกลับหรือได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคนที่พวกเขารัก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำเสนอเรื่องราวการค้นหาอย่างไม่ลดละของเดฟ คาร์นส์ อดีตนาวิกโยธินและสมุห์บัญชีผู้มุ่งมั่น ผู้พบเจ้าหน้าที่สองนายนี้ในค่ำคืนนั้น ติดตามมาด้วยเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจ และหน่วยแพทย์อีกหลายสิบชีวิตพยายามช่วยเหลือแม็คลัฟลินและจิมีโน่ในช่วง เวลาอันน่าหวั่นวิตกยาวนาน 12 ชั่วโมง
|