นักแสดง 1. พีท ทองเจือ - ผู้กองกาญจน์ 2. วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ - อังกอร์ 3. คงกระพัน แสงสุริยะ - หมวดชาติ 4. จิตติมา สำเภาทอง - กิ่ง 5. ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ - คอยที 6. กัญจน์ ภักดีวิจิตร – ผา 7. คริส แคลาย - หมวดฤทธิ์ 8. กรุง ศรีวิไล - จ่าเข้ม 9. พิสมัย วิไลศักดิ์ - แม่นรินทร์ 10. ฤทธิ์ ลือชา - กำนันหิน 11. มานพ อัศวเทพ - นายพลเวียน 12. พงศนาถ วินศิริ - พ.ท.อาจณรงค์ 13. ยอดชาย เมฆสุวรรณ - ลุงอินทร์ 14. เบคิม ฤทธิ์ - คำปัน 15. ยุพ ข่าน - จ่าเมฆ
นายทหารประจำฝ่ายป้องกันและปราบปรามของประเทศเขมรชอบล่าเสือเพราะมีความแค้น มาตั้งแต่เด็กเพราะเห็นพ่อถูกเสือฆ่าต่อหน้าต่อตา จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเสือขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่ออกล่าเสือนางเสือตัวนี้ก็คอยตามล่านายพลเช่นเดียวกันเพราะนายพล ได้ฆ่าคู่ของมันตาย
คุณหญิง ภรรยานายพลมิน หลังจากแต่งงานกันมานานแล้วไม่มีลูก จึงได้ไปบนที่วัดอังกอร์ ในที่สุดก็ตั้งท้อง ก่อนคุณหญิงคลอด นายพลมินได้ออกไปล่าเสือตัวดังกล่าวซึ่งมีพลังและวิญญาณที่กล้าแข็งมาก ในขณะที่ มันกระโจนเข้าหา นายพลมินยิงสวนถูกแสกหน้ามันอย่างจัง มันจ้องหน้านายพลอย่างอาฆาต จนสิ้นลมไป เสียงเด็กร้องไห้จ้า เมื่อนายแพทย์ประจำตระกูลส่งเด็กหญิงแรกเกิดให้ นรินทร์ตกใจเมื่อเห็นเงาสีเขียววาบขึ้นมาในแววตาของเด็กน้อย คุณหญิงคลอดก่อนกำหนดและเสียชีวิตทันทีที่คลอด
20 ปีผ่านไป อังกอร์ โตเป็นสาวท่ามกลางความรักของท่านนายพลมินและนรินทร์แม่นมของอังกอร์อังกอร์ เติบโตมาพร้อมกับ คอยที ลูกชายคนเดียวของนรินทร์ นรินทร์คอยดูแลคุณหญิง ตั้งแต่สามีเธอตาย นายพลมินเลี้ยงเธอมาอย่างดี ฉะนั้นเธอจึงรักอังกอร์เหมือนลูกของเธอ จนคอยที ได้เป็นผู้กองในหน่วยจู่โจมพิเศษและเป็นนายทหารคนสนิทของนายพลมิน
อังกอร์เป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามและมีความรู้ นายพลมินส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษ เรียนวิชา แพทย์เป็นปีสุดท้าย และกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่องานครบรอบวันตายของแม่เธอและวันเกิดของเธอด้วย นายพลมินจัดงานวันเกิดให้อังกอร์ ความสวยของเธอเป็นที่เลื่องลือ มีนายทหารคนหนึ่งหมายปองที่จะครอบครองเธอให้ได้ ซึ่งก็คือ อ้ายคำปัน ลูกชายนายพลทหารฝ่ายการต่างประเทศ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พวกเขมรแดงปฏิวัติสำเร็จบุกเข้ายึดเมืองพนมเปญ
นายพลมินตัดสินใจให้คอยที พาอังกอร์หนีเข้าชายแดนไทย และตัวเองก็หนีไปอีกทางเพื่อเข้าฝรั่งเศส เพราะอ้ายคำปันซึ่งสมคบกับเขมรแดงต้องการจับอังกอร์และครอบครัว คอยทีพาอังกอร์หนีและเกิดการพลัดพรากจากกัน คอยทีถูกทหารเขมรแดงจับ แต่อังกอร์หนีไปได้ เดินทางไปทางชายแดนไทยตามลำพังอังกอร์มา ถึงค่ายอพยพก็ถูกพวก ไอ้เมี่ยว หัวหน้าแก๊งค์ชาวเขมรรังแก แต่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้กองคนใหม่ ร้อยตำรวจเอกกาญจน์ ที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ พร้อมลูกน้องคนสนิทสามคนซึ่งถูกย้ายเนื่องจากปฏิบัติงานเกินขอบเขตที่ได้รับ มอบหมาย
ต่อมา ลูกน้องคนสนิทของผู้กองกาญจน์ ถูกผู้หมวดฤทธิ์และพวกฆ่าตายเพราะไปรู้ความลับเรื่องหมวดฤทธิ์ค้าอาวุธ สงคราม แต่หมวดฤทธิ์กลับรายงานว่าทั้งสามถูกกองโจรเข้าโจมตียามดึก แต่ผู้กองกาญจน์ไม่เชื่อตั้งใจสืบหาเบาะแส แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจาก พันโทอาจณรงค์ ผู้ดูแลค่ายอพยพ ทำให้ผู้กองสงสัยว่าพันโทอาจณรงค์น่าจะมีส่วนร่วมด้วย
คืนหนึ่งอังกอร ์ ถูกพาตัวออกนอกค่ายพร้อมหญิงชาวเขมร 3-4 คนเพื่อขายให้กับคนต่างถิ่น โดยมีจ่าเมฆ น้องชายหมวดฤทธิ์ ที่ทั้งสองเป็นลูกของกำนันหินผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นผู้คุมไป ก่อนจะส่งตัวให้คนซื้อ จ่าเมฆและพวกพยายามจะข่มขืนอังกอร์ เมื่อเธอถูกทำร้ายก็ลืมตัว วิญญาณของเสือร้ายที่สิงอยู่ในตัวเธอเมื่อแรกเกิด ส่งผลให้เธอกลายร่างเป็นเสือขนาดใหญ่ฆ่าพวกมันตายหมดและเตลิดเข้าป่าไปใน ความมืด จนกว่าเธอจะรู้สึกตัวร่างจึงจะกลายเป็นคนอย่างเดิม
ผู้กองกาญจน์ กลับมาบ้านพักได้พบอังกอร์ในสภาพบอบช้ำ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลของค่ายและจุดนี้เองที่ผู้กองรู้ว่า หมวดฤทธิ์และพวกสังหารลูกน้องเขาและค้าอาวุธเถื่อนกับพวกโจร ผู้กองตัดสินใจพา อังกอร์หนีกลับเขมรก่อนแล้วค่อยหาหลักฐานมัดตัวหมวดฤทธิ์และคนอื่นๆ ต่อไปโดยมีหมวดชาติไปด้วยเนื่องจากผู้กองไม่ชำนาญทาง แต่หมู่เข้มก็ให้กิ่ง ลูกสาวของตนช่วยนำทางไปอีกคน โดยหมู่เข้มอยู่สังเกตการณ์และหาทางรายงานผู้บังคับบัญชา ณ กองสอบสวนกลางให้รับรู้ต่อไป
หมวดฤทธิ์ตามล่าผู้กองโดยกล่าวหาว่าผู้กองพาคนร้ายหนี โดยมีกำนันหินผู้เป็นพ่อเดินทางไปด้วย ในระหว่างหนี ผู้กองและอังกอร์เกิดความใกล้ชิดกัน แม้ว่าจะถูกขัดขวางจากกิ่ง ซึ่งแอบชอบผู้กองอยู่ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ชอบอยู่กับ หมวดชาติ ในที่สุดหมวดฤทธิ์ก็ตามทันด้วยความชำนาญของพรานหม่อง พรานเสือชาวพม่า และได้เกิดการปะทะกัน ผู้กองโดนยิงบาดเจ็บ พอดีคอยทีเข้ามาช่วยไว้ไม่ให้ถูกจับ แต่ต้องเอากระสุนออกโดยอังกอร์เป็นคนจัดการเอง
ในขณะที่หมวดชาติกับกิ่งแยกออกไปหาเสบียง คอยทีสังเกตว่าอังกอร์มีความรู้สึกพิเศษกับผู้กอง ก็เลยกล่าวตักเตือนจึงเป็นเหตุให้มีปากมีเสียงกัน หมวดฤทธิ์และพวกตามมาจนเจอ พร้อมกับจับตัวผู้กองไว้ได้ คอยทีพยายามจะช่วยแต่กลับถูกหมวดฤทธิ์ยิงจนขาดใจตาย อังกอร์เสียใจสุดขีด กลายร่างเป็นเสือฆ่าหมวดฤทธิ์และกำนันหิน ส่วนคนอื่นๆ นั้นเตลิดหนีไปได้ ร่างของเสือหายเข้าไปในป่าพร้อมกับเสียงฟ้าร้องและแรงลมที่พัดกระหน่ำราวกับ พายุ
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของผู้กองกาญจน์ ซึ่งแทบไม่เชื่อสายตาที่เห็นอังกอร์กลายร่างเป็นเสือจนผู้กองหมดสติไปในที่ สุด ผู้กองตื่นมาอีกครั้งด้วยการสัมผัสอันอ่อนโยนจากมือของอังกอร์ แต่ภาพเมื่อคืนยังติดตาอยู่ ผู้กองหวาดผวาลืมตัว ถึงกับคว้าปืนจ้องไปที่อังกอร์ แต่ในที่สุดก็คว้าร่างของอังกอร์เข้ามากอด อังกอร์ เล่าเรื่องอันลี้ลับของเธอให้ฟัง
อังกอร์ตื่นขึ้นมาในยามดึก พบพระภิกษุรูปหนึ่งนั่งวิปัสสนาอยู่ตรงโคนต้นไม้ จึงปลุกผู้กองและเคลื่อนตัวเข้าไปหาก็ได้ยินเสียงบอกให้หยุดและบอกวิธีการ กำจัดวิญญาณร้ายในตัว ว่าก่อนถึงชายแดนเขมรมีถ้ำใต้น้ำตกอยู่ ภายในถ้ำจะมีกริชที่สามารถทำลายวิญญาณร้ายได้ด้วยการแทงที่หัวใจ ที่สำคัญต้องมีความเชื่อมั่นและมีจิตใจที่ดีงามถึงจะพ้นภัย ผู้กองและอังกอร์ได้ยินดังนั้นจึงก้มลงกราบพระภิกษุแต่พอเงยหน้า ขึ้นมาอีกครั้ง พระภิกษุรูปนั้นก็หายไปเสียแล้ว กิ่งพาอังกอร์และผู้กองไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหัวหน้าชื่อ กล้า อดีตเสือเก่าลูกน้องของหมู่เข้ม นายกล้าบอกว่าอีกไม่ไกลก็ถึงชายแดน ให้พักผ่อนก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อและให้ลูกน้อยไปคอยดูต้นทาง
ทางด้านหมู่เข้มก็ส่งข่าวถึงกองสืบสวนกลางใน กรุงเทพฯ ผู้บังคับการได้ส่งคนมาพบและเคลียร์ พร้อมกับให้หมู่เข้มนำกำลังออกติดตามผู้กองทันที ผู้กอง อังกอร์ หมวดชาติและกิ่งต้องรีบออกเดินทางเพราะมีข่าวว่ามีกำลังคนกลุ่มหนึ่งมุ่ง หน้ามาทางนี้ นายกล้าบอกให้ไปทางที่มีน้ำตกข้างบนซึ่งสามารถหลบได้และมองเห็น ผู้ที่อยู่ข้างล่างได้เป็นอย่างดี กิ่งและหมวดชาติให้ผู้กองและอังกอร์ไปก่อน ส่วนตัวจะคอยรับมือพวกหมวดฤทธิ์เพื่อถ่วงเวลา ผู้กองและอังกอร์มาถึงที่น้ำตกและขึ้นไปหลบอยู่ด้านบน
ครู่ต่อมาเสียงหมวดฤทธิ์ก็ดังอยู่เบื้องล่าง พร้อมมีพวกของผู้กองทุกคนและชาวบ้านเป็นตัวประกัน เพื่อให้ผู้กองและอังกอร์ลงมามอบตัวแต่แล้วด้วยความบ้าของหมวดฤทธิ์มันก็จับ เด็กชายลูกของนายกล้าโยนลงสู่น้ำตกเบื้องล่างท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุก คน ร่างของอังกอร์พุ่งสู่สายน้ำเบื้องล่างตามร่างของเด็กไปทันที กระสุนเจาะร่างที่กำลังลอยละลิ่วลงมา อังกอร์ร้อง ด้วยความเจ็บปวดจนกลายเป็นเสียงคำรามของเสือร้าย ร่างของอังกอร์ค่อยๆ กลายสภาพและ หล่นตูมลงไปในแอ่งน้ำ หมวดฤทธิ์วิ่งไปที่แอ่งน้ำแล้วหัวเราะอย่างมีชัย
ทันใดนั้นกระแสน้ำก็ปั่น ป่วน ร่างเหลืองสลับแดงพุ่งเข้าหาหมวดฤทธิ์ เล็บแหลมคมตะปบร่างของหมวดฤทธิ์ขาดกระจุย เลือดทะลักและร่วงลงสู่น้ำตกเบื้องล่าง ร่างเสือร้ายหายเข้าไปในม่านน้ำพร้อมกับเสียงปืนดังสนั่น ผู้กองพยายามเข้าไปที่ถ้ำ ให้ทุกคนอยู่ด้านนอก ได้พบกริชเล่มหนึ่งจึงเรียกอังกอร์ให้ออกมา มีเสียง คำรามดังอยู่ในหลืบถ้ำ มีแสงสว่างส่องรอดมาที่ร่างเสือขนาดใหญ่ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และค่อยๆ กลายสภาพเป็นคน ผู้กองประคองร่างอังกอร์ต่างก็เข้าใจว่าต้องทำอย่างไรตามคำบอกเล่าของพระ ภิกษุ
ผู้กองและอังกอร์ต่างบอกความในใจและสารภาพถึงความรักที่มีต่อกันทั้งสองกอด กันแน่น ในที่สุดผู้กองก็ยกกริชขึ้นสูงและแทงลงไปที่หัวใจของอังกอร์ เสียงร้องโหยหวนของเสือร้าย ดังขึ้น ผู้กองกอดร่างอังกอร์แน่นมีแสงประหลาดสีเขียวระยิบระยับแสงครอบคลุมร่างของ อังกอร์ และหายไปในอากาศ
หนึ่งปีต่อมาที่วัดอังกอร์ ผู้กองมองทิวทัศน์รอบวัดอังกอร์ แม่นมนรินทร์ อังกอร์ เดินตามมาด้วยนายพลมินและพระภิกษุ อังกอร์กอดเสืออย่างรักใคร่ อังกอร์กอดนายพลมิน แม่นมนรินทร์และกราบลาพระภิกษุ ทุกคนมองด้วยความชื่นชมอังกอร์เดินอย่างมีความสุข ด้านขวาของเธอจูงเสือลายพาดกลอน ด้านซ้ายของเธอมีคนที่เธอรัก ชีวิตของเธอมีความสุขสวยงามเหมือนกับธรรมชาติและท้องฟ้าที่สดใสสวยงามอยู่ใน ขณะนี้
|