Synopsis :
"I am strong, I am invincible. I am woman" ท่อนเพลงสุดทรงพลังนี้มาจากเพลง I am Woman หากดูแค่เนื้อเพลงอาจจะมองว่านี้เป็นเพลงสุดเกรี้ยวกราด แต่เมื่อลองได้ฟังทำนองและเสียงขับร้องของ Helen Reddy แล้ว นี่คือเพลงที่แสนงดงามแต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่สามารถอธิบายความเป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งเพลงสุดทรงพลังนี้ก็ได้กลายมาเป็นบทเพลงสำคัญสำหรับเหล่าผู้เรียกร้องความเท่าเทียมของผู้หญิงใช้เป็นหลักเพื่อประกาศจุดยืนของตัวเอง ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังบทเพลงนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
Helen Reddy ได้เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBC หลังจากที่เพลง I am Woman ที่เธอร่วมเขียนเนื้อเรื่องประสบความสำเร็จ จนสามารถเป็นศิลปินหญิงชาวออสเตรเลียคนแรกที่ได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ด เธอได้ยกว่าความสำเร็จในครั้งนั้นเป็นเหมือนใบเบิกทางให้เธอได้กลายเป็นตัวเองเสียที เธอให้สัมภาษณ์ว่า "มันกลายเป็นสิ่งสามารถเป็นไปได้ สำหรับใครที่เป็นเหมือนฉัน เพราะฉันไม่ได้ดูเริ่ดหรูอะไร ฉันไม่ใช่ Sex Symbol"
แต่กว่าที่เธอจะสามารถก้าวขึ้นมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งนี้ เธอก็เคยเล่าว่าก่อนหน้าที่เพลง ๆ นี้จะโด่งดังและกลายเป็นกระแสไปทั่วโลกขนาดนี้ เธอไม่สามารถขึ้นไปยืนบนเวทีโดยเป็นตัวเองได้เลย เธอให้สัมภาษณ์เอาไว้ในช่วงปี 1972 ว่า... "มันเพิ่งจะมีแค่ช่วง 3 ปีให้หลังนี้เอง ที่ฉันสามารถเดินขึ้นไปบนเวทีในฐานะของตัวฉันเองได้"
การยืนหยัดของ Helen Reddy ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความเท่าเทียม เพราะหากนึกภาพกันออก ในช่วงยุค 70s นั้น เป็นยุคที่ผู้หญิงมักจะถูก Sterotype ว่าเป็นเหมือนสัญลักษณ์ทางเพศ ไม่ว่าจะนำเสนอความสามารถมากแค่ไหน ก็จำเป็นที่ต้องอวดเรือนร่างสักหน่อย เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชายที่เป็นเหมือนผู้กุมอำนาจสำคัญในการจับจ่ายใช้สอยในยุคนั้น โดยเพลง I am Woman เองก็ได้อธิบายชัดถึงการต่อสู้ของผู้หญิง ว่าหากเธอจะต้องเข้มแข็งเธอก็สามารถทำได้ และเธอก็สามารถฉลาดเฉลียวได้ จากความเจ็บปวดทั้งหมดที่ได้รับ
|