เมื่อคนตายแล้วก็กลายเป็นผี ต้องถูกนำตัวไปยมโลก เมื่อมีชีวิตอยู่ทำแต่ความชั่วจะต้องถูกพิพากษาไปรับกรรมที่นรกขุมที่สิบแปด แต่ถ้าไม่ได้ทำความชั่วร้ายแรงก็รอเวลาไปเกิด ยมโลกก็เหมือนเมืองมนุษย์ จ้าวพญามัจจุราช เป็นผู้ปกครองยมโลกปกครอง สิบพญามัจจุราชสี่ตุลาการยมโลก ห้าแม่ทัพแห่งยมโลก เจ้าพ่อหลักเมือง ยมฑูตดำขาว นายทวารหัววัวหน้าม้า เมิ่งผอ ฯลฯ หนึ่งในจำนวนนั้น ตุลาการยมโลกเกี่ยวข้องกับการเกิดดับของมนุษย์ โดยมีสมุดเล่มหนึ่งที่ใช้จดบันทึกการเกิดดับของมนุษย์โดยเฉพาะ เมื่อมนุษย์สิ้นอายุขัยตุลาการยมโลกก็จะใช้พู่กันเหล็กจดบันทึกลงในสมุดบันทึกจากนั้นยมฑูตดำขาวก็นำดวงวิญญาณผู้ตายไปยังยมโลกเพื่อรอการพิพากษา บนโลกมนุษย์ที่เมืองหลวง ไป๋ซงหลิง ขุนนางผู้บริสุทธิ์ซึ่งพลอยติดร่างแหในคดีถวายฏีกาต่อฮ่องเต้จนต้องโทษประหารชีวิต ไป๋ซงหลิงจะถูกประหารในฤดูใบไม้ร่วง นักโทษประหารถูกควบคุมตัวไปที่ลานประหารเพื่อรอคำสั่งประหาร ชาวเมืองต่างพากันดูการประหารซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมี จูเอ่อตั้น รวมอยู่ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังประกาศความผิดของนักโทษอยู่นั่นเอง ไป๋หยาง ลูกชายของไป๋ซงหลิงก็ร้องต่อเจ้าหน้าที่ว่าพ่อของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกคนเลวใส่ร้าย จากนั้นไป๋หยางก็ตะโกนด่าทอขุนนางชั่วที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ เจ้าหน้าที่เห็นไป๋หยางเข้ามาก่อกวนการประหารดังนั้นจึงมีคำสั่งคุมขังไป๋หยาง ทันใดนั้นเองก็เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาผู้คนต่างพากันหาที่หลบฝน เจ้าหน้าที่สั่งประหารนักโทษหัวนักโทษร่วงหล่นลงพื้นไปตามกัน ที่ยมโลก สี่ตุลาการยมโลกกำลังตรวจสอบดวงวิญญาณใหม่ที่เพิ่งถูกนำตัวมายังยมโลก ทั้งสี่พบว่าไป๋ซงหลิงเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เนื่องจากไป๋ซงหลิงโง่เขลาจึงถูกคนหลอกใช้ ด้วยเหตุนี้จึงติดร่างแหถูกประหารชีวิตไปด้วย ตุลาการลู่ คิดว่าคนโง่กระทำความผิดไม่ถือว่าเป็นความผิด ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะส่งตัวไป๋ซงหลิงไปชดใช้ความผิดที่นรกขุมที่สิบแปด แต่ ตุลาการซือ ถูกลับคิดว่าเนื่องจากโง่เขลาจึงไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะแยกแยะดีชั่ว เมื่อต้องตายก็เป็นการสมควรแล้ว แม้ว่าไม่ต้องไปชดใช้ความผิดถึงนรกขุมที่สิบแปดก็ตามแต่ก็ต้องรับโทษ นายสุวรรณทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็ยกเหตุผลมาถกเถียงกัน และแล้วทั้งสองก็เดิมพันกัน โดยพิสูจน์ว่าเมื่อคนโง่กลายเป็นคนฉลาดแล้วจะทำความชั่วหรือไม่ อีกด้านหนึ่งนั้นไป๋หยางรับศพพ่อกลับมา แต่เนื่องจากทรัพย์สินถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินทำให้ไป๋หยางไม่มีเงินทำศพพ่อ ไป๋หยางขอยืมเงินจาก องครักษ์จาง ซึ่งเป็นว่าที่พ่อตา เพื่อนำเงินไปทำศพให้พ่อ นึกไม่ถึงว่าองครักษ์จางถือโอกาสนี้ยกเลิกการแต่งงาน ทำให้ไป๋หยางเคียดแค้นเป็นอันมาก โชคดีที่ จางเสี่ยวม่าน ไม่ใช่คนที่ยึดติดกับอำนาจนางแอบติดต่อกับไป๋หยาง ทั้งสองเปิดเผยความในใจที่มีต่อกันจากนั้นก็หนีไปด้วยกัน ตุลาการลู่ตัดสินใจเลือกทดสอบจูเอ่อตั้นซึ่งปัญญาทึบ เหตุที่เลือกทดสอบจูเอ่อตั้นนั้นเนื่องจากจูเอ่อตั้นปกป้องคุ้มครองเทวรูปของตนซึ่งอยู่ในวัดเป็นอย่างดี จูเอ่อตั้นชื่นชอบเทวรูปตุลาการลู่ซึ่งตั้งอยู่ในวัดเป็นอันมาก โดยรู้สึกว่าเทวรูปตุลาการลู่นั้นปั้นออกมาเหมือนมีชีวิตจริง ครั้งหนึ่งเทวรูปตุลาการลู่ถูก หยางต้าเหนียน โจรร้ายทำลาย จูเอ่อตั้นปกป้องคุ้มครองเทวรูปตุลาการลู่เป็นอย่างดี จนกระทั่งตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเรื่องนี้เองจึงทำให้ตุลาการลู่และจูเอ่อตั้นมีวาสนาต่อกัน ที่สำคัญทำให้ชะตาชีวิตของจูเอ่อตั้นเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกด้วย
จูเอ่อตั้นแต่งงานอยู่กินกับ เส้าหยง ภรรยาที่หน้าตาอัปลักษณ์ เนื่องจากเส้าหยงมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ด้วยเหตุนี้จูเอ่อตั้นจึงแต่งงานด้วยสำหรับเส้าหยงแล้วนางไม่รังเกียจที่จูเอ่อตั้นปัญญาทึบ ดังนั้นจูเอ่อตั้นก็ต้องไม่รังเกียจที่นางหน้าตาอัปลักษณ์ แต่แล้วพ่อตาก็รังเกียจจูเอ่อตั้น เส้าหยงยอมลำบากใช้ชีวิตอยู่กินกับจูเอ่อตั้น หลังจากที่เส้าหยงแต่งงานกับจูเอ่อตั้นแล้ว เส้าหยงก็เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว นอกจากนางจะต้องทำงานบ้านแล้ว ในแต่ละวันนางจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำน้ำเต้าหู้และเต้าหู้ไปขายที่ตลาด นางต้องการให้จูเอ่อตั้นทุ่มเทให้กับการเรียนโดยหวังว่าสักวันหนึ่งจูเอ่อตั้นจะสอบได้เป็นจอหงวน นึกไม่ถึงว่าจูเอ่อตั้นกลับใช้การเรียนเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่ต้องทำงาน จูเอ่อตั้นไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดและได้รู้จักกับ เสี่ยวม่าน ความงามของเสี่ยวม่านทำให้จูเอ่อตั้นถึงกับตะลึงพรึงเพริศเลยทีเดียว องครักษ์จางต้องการให้เสี่ยวม่านแต่งงานกับลูกหลานขุนนาง แม้ว่าเสี่ยวม่านจะคัดค้านแต่ก็ไม่เป็นผล เสี่ยวม่านวางแผนหนีไปอยู่กินกับไป๋หยางแต่น่าเสียดายกลับถูกองครักษ์จางจับได้เสียก่อน เสี่ยวม่านใช้ความตายต่อรองทำให้องครักษ์จางยอมลามือ แต่ถึงกระนั้นก็ตามองครักษ์จางก็มีข้อแม้ว่าไป๋หยางจะต้องสอบจอหงวนให้ได้เสียก่อนถึงจะยกเสี่ยวม่านให้ ไป๋หยางปฏิญาณว่าจะต้องสอบเป็นจอหงวนให้ได้ไม่เช่นนั้นตนก็จะไม่คู่ควรกับเสี่ยวม่าน และที่สำคัญตนจะได้ชำระล้างมลทินให้พ่อ กำจัดขุนนางชั่วให้สิ้นซากไป วันหนึ่งจูเอ่อตั้นถูกเพื่อน ๆ กลั่นแกล้ง เพื่อน ๆ ท้าจูเอ่อตั้นว่าจูเอ่อตั้นไม่กล้าเข้าไปขโมยเทวรูปในวัดแล้วนำกลับบ้านในยามวิกาลอย่างแน่นอน จูเอ่อตั้นต้องการรักษาหน้าตนเองเอาไว้ดังนั้นจึงรับคำท้าโดยอุ้มเทวรูปตุลาการลู่กลับบ้าน เพื่อน ๆ ต่างพากันตะลึงไม่คิดว่าจูเอ่อตั้นจะกล้าทำ หลังจากที่เพื่อน ๆ พากันแยกย้ายกลับไปแล้ว จูเอ่อตั้นก็นำเหล้ามาขอขมาต่อเทวรูปตุลาการลู่ ทันใดนั้นเองตุลาการลู่ก็ปรากฏกายให้จูเอ่อตั้นเห็น จูเอ่อตั้นวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว ตุลาการลู่สำแดงอิทธิฤทธิ์ทำให้จูเอ่อตั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จากนั้นตุลาการลู่ก็กล่าวกับจูเอ่อตั้นว่าไม่ต้องกลัว ทำให้จูเอ่อตั้นสงบนิ่งลงได้ ตุลาการลู่หยั่งเชิงทดสอบความตั้งใจของจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นเปิดเผยว่าตนมีปณิธานอันแรงกล้าที่จะสอบเป็นจอหงวนให้ได้เพื่อเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีให้วงศ์ตระกูล ที่สำคัญภรรยาจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป แต่ก็ต้องทอดถอนใจที่ตนปัญญาทึบ ไม่มีทางสอบได้เป็นจอหงวนอย่างแน่นอน ตุลาการลู่ได้ยินเช่นนั้นจึงตัดสินใจช่วยเหลือโดยทำความปรารถนาของจูเอ่อตั้นให้เป็นความจริงขึ้นมา ตกดึกตุลาการลู่ก็เข้าฝันจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นตกใจมากที่เห็นไส้ของตนทะลักออกมา ตุลาการลู่บอกจูเอ่อตั้นให้ทำใจดี ๆ ไม่ต้องกลัว ตนจะช่วยให้จูเอ่อตั้นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด นับแต่นั้นเป็นต้นมาจูเอ่อตั้นราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว จูเอ่อตั้นกลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่ทว่านับแต่นี้เป็นต้นไปชีวิตของจูเอ่อตั้นก็ไม่เป็นอันสงบสุขอีกต่อไปแล้ว จูเอ่อตั้นกลายเป็นคนทะนงตน เที่ยวรังแกคนอื่นหาความสำราญตามหอนางโลม เกิดความเบื่อหน่ายต่อภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา จูเอ่อตั้นรังเกียจที่ภรรยาที่หน้าตาอัปลักษณ์ ดังนั้นจึงเสาะแสวงหาหญิงอื่น ตุลาการลู่เกรงว่าตนจะแพ้เดิมพันต่อตุลาการซือถู ดังนั้นจึงตักเตือนจูเอ่อตั้นอย่าได้ทำความชั่ว จูเอ่อตั้นขอร้อง ตุลาการลู่ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้ภรรยาของตน โดยสาบานว่าถ้าภรรยาของตนมีใบหน้าที่งดงามแล้วตนจะซื่อสัตย์ต่อนาง ตุลาการลู่เห็นจูเอ่อตั้นให้คำมั่นเช่นนั้นจึงรับปากตามความปรารถนาของจูเอ่อตั้น แต่ก็ต้องขอเวลาหาใบหน้าที่เหมาะสมให้ได้เสียก่อน หลายวันต่อมาเสี่ยวม่านต้องการไปไหว้พระที่วัด โจรชั่วหยางต้าเหนียนหลงใหลในความงามของเสี่ยวม่าน หยางต้าเหนียนจับกุมตัวนางไปโดยหมายย่ำยีนาง เสี่ยวม่านต่อสู้ขัดขืน และแล้วหยางต้าเหนียนก็พลั้งมือฆ่าเสี่ยวม่านจนถึงแก่ความตาย จูเอ่อตั้นผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์พอดี ไม่เพียงไม่ช่วยชีวิตเสี่ยวม่าน เมื่อเห็นเสี่ยวม่านตายก็ร้องเรียกตุลาการลู่ โดยบอกตุลาการลู่ว่ามีใบหน้าที่เหมาะสมแล้ว ตุลาการลู่สำแดงอิทธิฤทธิ์เปลี่ยนใบหน้าให้เส้าหยงภรรยาของจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นดีใจมากเมื่อเห็นเส้าหยงภรรยาของตนกลายเป็นหญิงงาม แรกเริ่มเดิมทีนั้นเส้าหยงก็ต่อต้าน แม้ว่าเปลี่ยนใบหน้าแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำใจรับได้ เนื่องจากเปลี่ยนใบหน้าแต่ไม่ได้เปลี่ยนจิตใจ จูเอ่อตั้นดีใจมากที่เห็นภรรยาของตนมีใบหน้างดงาม แต่นึกไม่ถึงว่ากลับนำความรำคาญมาให้เสี่ยวหยง เนื่องจากมีผู้ชายจำนวนมากตามจีบนาง
ดวงวิญญาณของเสี่ยวม่านล่องลอยไปยังยมโลก กลายเป็นดวงวิญญาณไร้หัว ตุลการลู่รู้สึกละอายใจเป็นอันมาก ดังนั้นจึงหาทางให้เสี่ยวม่านไปเกิดโดยเร็วที่สุด แต่เสี่ยวม่านกลับไม่ยอมไปเกิดโดยต้องการพบกับพญามัจจุราชให้ได้ ตุลาการลู่เกรงว่าเสี่ยวม่านจะอาละวาด ดังนั้นจึงให้เสี่ยวม่านไปรับความทุกข์ทรมาณที่ขุมนรก ปกปิดความผิดของตน ศพไร้หัวของเสี่ยวม่านถูกพบ พ่อจำได้ว่าเป็นศพของเสี่ยวม่าน ไป๋หยางเศร้าโศกเสียใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าเสี่ยวม่านตายแล้ว ไป๋หยางเกิดความทุกข์ระทมแสนสาหัส ยังไม่ทันได้ล้างแค้นให้พ่อ ภรรยาก็มาถูกฆ่าตายอย่างอนาถ ไป๋หยางไปยังสถานที่เกิดเหตุที่เสี่ยวม่านถูกฆ่าตาย โดยหวังว่าจะจับตัวฆาตกรให้ได้ ต่อมาไป๋หยางได้พบกับเส้าหยงที่วัดโดยบังเอิญ ไป๋หยางตกใจมากที่ใบหน้าของเส้าหยงเหมือนกับเสี่ยวม่าน ไป๋หยางคาดคั้นเพื่อเอาความจริงจากเส้าหยง จูเอ่อตั้นเห็นเช่นนั้นจึงรีบขับไล่ไป๋หยางไป และแล้วเรื่องใบหน้าภรรยาจูเอ่อตั้นเปลี่ยนแปลงไปก็แพร่สะพัดไปทั่วจนเข้าถึงหูองครักษ์จาง องครักษ์จางสืบหาความจริงด้วยตนเอง จนพบว่าเส้นผมและใบหน้าของเส้าหยงเหมือนกับเสี่ยวม่านทุกประการ ศพของเสี่ยวม่านเป็นศพที่ไร้หัว องครักษ์จางสงสัยว่าจูเอ่อตั้นใช้วิชามารสับเปลี่ยนหัวเส้าหยงกับเสี่ยวม่าน ดังนั้นจึงฟ้องร้องดำเนินคดีกับจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นซึ่งถูกจับกุมคุมขังนั้นได้วิงวอนขอความช่วยเหลือจากตุลาการลู่ ตุลาการลู่มีคำสั่งให้เสี่ยวม่านเข้าฝันพ่อของนาง โดยอธิบายความจริงให้พ่อฟังทำให้จูเอ่อตั้นพ้นผิดได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ อีกด้านหนึ่งนั้น ไป๋หยางกลับตามรังควานเส้าหยง เส้าหยงเกิดความสงสารไป๋หยาง ดังนั้นจึงเปิดเผยความจริงให้ไป๋หยางรู้ ไป๋หยางเคียดแค้นมากเมื่อรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของตุลาการลู่ ไป๋หยางไม่กลัวแม้แต่ความตาย โดยต้องการไปที่ยมโลกเพื่อตามหาเสี่ยวม่าน ตุลาการลู่ต้องการปกปิดความผิดของตน ดังนั้นจึงใช้ผลประโยชน์ล่อไป๋หยาง แต่ไป๋หยางกลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ไป๋หยางปฏิญาณว่าจะต้องช่วยเสี่ยวม่านให้ได้ นึกไม่ถึงว่าตุลาการลู่กลับถลำลึกลงไปอีก โดยให้ไป๋หยางไปทนทุกข์ทรมานที่ขุมนรก ตุลาการลู่คิดว่าเมื่อไป๋หยางและเสี่ยวม่านทนทุกข์ทรมาณไม่ไหวก็จะยอมแพ้ แต่นึกไม่ถึงว่าทั้งไป๋หยาง และ เสี่ยวม่านกลับไม่ยอมแพ้ต่อตุลาการลู่ แม้ว่าจะต้องทนทุกข์ทรมาณแสนสาหัสก็ตาม ไป๋หยางและเสี่ยวม่านต่างต้องทนทุกข์ทรมาณที่นรกขุมที่สิบแปด ปณิธานที่แน่วแน่ของเสี่ยวม่านและไป๋หยางนั้นเป็นที่เลื่อมใสต่อวิญญาณดวงอื่น ๆ วิญญาณดวงอื่น ๆ ต่างผนึกกำลังกันช่วยเสี่ยวม่านและไป๋หยางให้หลุดพ้นจากนรกขุมที่สิบแปด ไป๋หยางและเสี่ยวม่านพากันอาละวาดที่ยมโลกจนรู้ถึงพญามัจจุราช ไป๋หยางฟ้องร้องเพื่อเอาผิดตุลาการลู่ ในเวลาเดียวกันนี้เองผู้ตรวจการจากสวรรค์ได้มาตรวจการที่ยมโลกพอดี พญามัจจุราชไม่ต้องการให้เรื่องนี้ล่วงรู้ถึง เง็กเซียนฮ่องเต้ ด้วยตนจะมีความผิดที่ปกครองไม่ดี พญามัจจุราชปกป้องตุลาการลู่โดยให้ไป๋หยางและเสี่ยวม่านไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไป๋หยางและเสี่ยวม่านต่างขัดขืนไม่ยอมดื่มน้ำลืมอดีตของ เมิ่งผอ นายทวารหัวม้าหน้าวัว เห็นเช่นนั้นจึงนำน้ำลืมอดีตกรอกปากเสี่ยวม่านและไป๋หยาง เมิ่งผอเกิดความสงสารจึงแอบสับเปลี่ยนน้ำลืมอดีต ไป๋หยางไปเกิดเป็นหมูส่วนเสี่ยวม่านไปเกิดเป็นสุนัข ในที่สุดเรื่องราวก็จบลงด้วยดี จูเอ่อตั้นสอบได้เป็นจอหงวนกลายเป็นขุนนางใหญ่ จูเอ่อตั้นบริจาคเงินบูรณะซ่อมแซมวัด ไม่เพียงเท่านั้นจูเอ่อตั้นยังสร้างวัดให้ตุลาการลู่โดยปลูกสร้างติดกับวัดเง็กเซียน ควันธูปลอยคละคลุ้ง ตกดึกวัดที่จูเอ่อตั้นสร้างให้ตุลาการลู่ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ไฟลุกโชนยากนักที่จะดับไฟลงได้ จนไฟได้ลุกลามไปถึงวัดเง็กเซียน เรื่องนี้ร้อนไปถึงสวรรค์ เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงกริ้วมากถึงกับทรงตำหนิเจ้าที่ที่รักษาวัดไม่ดี โดยจะต้องสืบหาความจริงว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้อย่างไรมาให้ได้ เจ้าที่สืบพบว่าต้นเหตุของไฟไหม้มาจากหมูและสุนัข หมูและสุนัขถูกนำตัวไปรับผิดต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ จากนั้นหมูและสุนัขต่างก็พากันร้องเรียนต่อเง็กเซียนฮ่องเต้
เมื่อคนตายแล้วก็กลายเป็นผี ต้องถูกนำตัวไปยมโลก เมื่อมีชีวิตอยู่ทำแต่ความชั่วจะต้องถูกพิพากษาไปรับกรรมที่นรกขุมที่สิบแปด แต่ถ้าไม่ได้ทำความชั่วร้ายแรงก็รอเวลาไปเกิด ยมโลกก็เหมือนเมืองมนุษย์ จ้าวพญามัจจุราช เป็นผู้ปกครองยมโลกปกครอง สิบพญามัจจุราชสี่ตุลาการยมโลก ห้าแม่ทัพแห่งยมโลก เจ้าพ่อหลักเมือง ยมฑูตดำขาว นายทวารหัววัวหน้าม้า เมิ่งผอ ฯลฯ หนึ่งในจำนวนนั้น ตุลาการยมโลกเกี่ยวข้องกับการเกิดดับของมนุษย์ โดยมีสมุดเล่มหนึ่งที่ใช้จดบันทึกการเกิดดับของมนุษย์โดยเฉพาะ เมื่อมนุษย์สิ้นอายุขัยตุลาการยมโลกก็จะใช้พู่กันเหล็กจดบันทึกลงในสมุดบันทึกจากนั้นยมฑูตดำขาวก็นำดวงวิญญาณผู้ตายไปยังยมโลกเพื่อรอการพิพากษา บนโลกมนุษย์ที่เมืองหลวง ไป๋ซงหลิง ขุนนางผู้บริสุทธิ์ซึ่งพลอยติดร่างแหในคดีถวายฏีกาต่อฮ่องเต้จนต้องโทษประหารชีวิต ไป๋ซงหลิงจะถูกประหารในฤดูใบไม้ร่วง นักโทษประหารถูกควบคุมตัวไปที่ลานประหารเพื่อรอคำสั่งประหาร ชาวเมืองต่างพากันดูการประหารซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมี จูเอ่อตั้น รวมอยู่ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังประกาศความผิดของนักโทษอยู่นั่นเอง ไป๋หยาง ลูกชายของไป๋ซงหลิงก็ร้องต่อเจ้าหน้าที่ว่าพ่อของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกคนเลวใส่ร้าย จากนั้นไป๋หยางก็ตะโกนด่าทอขุนนางชั่วที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ เจ้าหน้าที่เห็นไป๋หยางเข้ามาก่อกวนการประหารดังนั้นจึงมีคำสั่งคุมขังไป๋หยาง ทันใดนั้นเองก็เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาผู้คนต่างพากันหาที่หลบฝน เจ้าหน้าที่สั่งประหารนักโทษหัวนักโทษร่วงหล่นลงพื้นไปตามกัน ที่ยมโลก สี่ตุลาการยมโลกกำลังตรวจสอบดวงวิญญาณใหม่ที่เพิ่งถูกนำตัวมายังยมโลก ทั้งสี่พบว่าไป๋ซงหลิงเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เนื่องจากไป๋ซงหลิงโง่เขลาจึงถูกคนหลอกใช้ ด้วยเหตุนี้จึงติดร่างแหถูกประหารชีวิตไปด้วย ตุลาการลู่ คิดว่าคนโง่กระทำความผิดไม่ถือว่าเป็นความผิด ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะส่งตัวไป๋ซงหลิงไปชดใช้ความผิดที่นรกขุมที่สิบแปด แต่ ตุลาการซือ ถูกลับคิดว่าเนื่องจากโง่เขลาจึงไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะแยกแยะดีชั่ว เมื่อต้องตายก็เป็นการสมควรแล้ว แม้ว่าไม่ต้องไปชดใช้ความผิดถึงนรกขุมที่สิบแปดก็ตามแต่ก็ต้องรับโทษ นายสุวรรณทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็ยกเหตุผลมาถกเถียงกัน และแล้วทั้งสองก็เดิมพันกัน โดยพิสูจน์ว่าเมื่อคนโง่กลายเป็นคนฉลาดแล้วจะทำความชั่วหรือไม่ อีกด้านหนึ่งนั้นไป๋หยางรับศพพ่อกลับมา แต่เนื่องจากทรัพย์สินถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินทำให้ไป๋หยางไม่มีเงินทำศพพ่อ ไป๋หยางขอยืมเงินจาก องครักษ์จาง ซึ่งเป็นว่าที่พ่อตา เพื่อนำเงินไปทำศพให้พ่อ นึกไม่ถึงว่าองครักษ์จางถือโอกาสนี้ยกเลิกการแต่งงาน ทำให้ไป๋หยางเคียดแค้นเป็นอันมาก โชคดีที่ จางเสี่ยวม่าน ไม่ใช่คนที่ยึดติดกับอำนาจนางแอบติดต่อกับไป๋หยาง ทั้งสองเปิดเผยความในใจที่มีต่อกันจากนั้นก็หนีไปด้วยกัน ตุลาการลู่ตัดสินใจเลือกทดสอบจูเอ่อตั้นซึ่งปัญญาทึบ เหตุที่เลือกทดสอบจูเอ่อตั้นนั้นเนื่องจากจูเอ่อตั้นปกป้องคุ้มครองเทวรูปของตนซึ่งอยู่ในวัดเป็นอย่างดี จูเอ่อตั้นชื่นชอบเทวรูปตุลาการลู่ซึ่งตั้งอยู่ในวัดเป็นอันมาก โดยรู้สึกว่าเทวรูปตุลาการลู่นั้นปั้นออกมาเหมือนมีชีวิตจริง ครั้งหนึ่งเทวรูปตุลาการลู่ถูก หยางต้าเหนียน โจรร้ายทำลาย จูเอ่อตั้นปกป้องคุ้มครองเทวรูปตุลาการลู่เป็นอย่างดี จนกระทั่งตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเรื่องนี้เองจึงทำให้ตุลาการลู่และจูเอ่อตั้นมีวาสนาต่อกัน ที่สำคัญทำให้ชะตาชีวิตของจูเอ่อตั้นเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกด้วย
จูเอ่อตั้นแต่งงานอยู่กินกับ เส้าหยง ภรรยาที่หน้าตาอัปลักษณ์ เนื่องจากเส้าหยงมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ด้วยเหตุนี้จูเอ่อตั้นจึงแต่งงานด้วยสำหรับเส้าหยงแล้วนางไม่รังเกียจที่จูเอ่อตั้นปัญญาทึบ ดังนั้นจูเอ่อตั้นก็ต้องไม่รังเกียจที่นางหน้าตาอัปลักษณ์ แต่แล้วพ่อตาก็รังเกียจจูเอ่อตั้น เส้าหยงยอมลำบากใช้ชีวิตอยู่กินกับจูเอ่อตั้น หลังจากที่เส้าหยงแต่งงานกับจูเอ่อตั้นแล้ว เส้าหยงก็เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว นอกจากนางจะต้องทำงานบ้านแล้ว ในแต่ละวันนางจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำน้ำเต้าหู้และเต้าหู้ไปขายที่ตลาด นางต้องการให้จูเอ่อตั้นทุ่มเทให้กับการเรียนโดยหวังว่าสักวันหนึ่งจูเอ่อตั้นจะสอบได้เป็นจอหงวน นึกไม่ถึงว่าจูเอ่อตั้นกลับใช้การเรียนเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่ต้องทำงาน จูเอ่อตั้นไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดและได้รู้จักกับ เสี่ยวม่าน ความงามของเสี่ยวม่านทำให้จูเอ่อตั้นถึงกับตะลึงพรึงเพริศเลยทีเดียว องครักษ์จางต้องการให้เสี่ยวม่านแต่งงานกับลูกหลานขุนนาง แม้ว่าเสี่ยวม่านจะคัดค้านแต่ก็ไม่เป็นผล เสี่ยวม่านวางแผนหนีไปอยู่กินกับไป๋หยางแต่น่าเสียดายกลับถูกองครักษ์จางจับได้เสียก่อน เสี่ยวม่านใช้ความตายต่อรองทำให้องครักษ์จางยอมลามือ แต่ถึงกระนั้นก็ตามองครักษ์จางก็มีข้อแม้ว่าไป๋หยางจะต้องสอบจอหงวนให้ได้เสียก่อนถึงจะยกเสี่ยวม่านให้ ไป๋หยางปฏิญาณว่าจะต้องสอบเป็นจอหงวนให้ได้ไม่เช่นนั้นตนก็จะไม่คู่ควรกับเสี่ยวม่าน และที่สำคัญตนจะได้ชำระล้างมลทินให้พ่อ กำจัดขุนนางชั่วให้สิ้นซากไป วันหนึ่งจูเอ่อตั้นถูกเพื่อน ๆ กลั่นแกล้ง เพื่อน ๆ ท้าจูเอ่อตั้นว่าจูเอ่อตั้นไม่กล้าเข้าไปขโมยเทวรูปในวัดแล้วนำกลับบ้านในยามวิกาลอย่างแน่นอน จูเอ่อตั้นต้องการรักษาหน้าตนเองเอาไว้ดังนั้นจึงรับคำท้าโดยอุ้มเทวรูปตุลาการลู่กลับบ้าน เพื่อน ๆ ต่างพากันตะลึงไม่คิดว่าจูเอ่อตั้นจะกล้าทำ หลังจากที่เพื่อน ๆ พากันแยกย้ายกลับไปแล้ว จูเอ่อตั้นก็นำเหล้ามาขอขมาต่อเทวรูปตุลาการลู่ ทันใดนั้นเองตุลาการลู่ก็ปรากฏกายให้จูเอ่อตั้นเห็น จูเอ่อตั้นวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว ตุลาการลู่สำแดงอิทธิฤทธิ์ทำให้จูเอ่อตั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จากนั้นตุลาการลู่ก็กล่าวกับจูเอ่อตั้นว่าไม่ต้องกลัว ทำให้จูเอ่อตั้นสงบนิ่งลงได้ ตุลาการลู่หยั่งเชิงทดสอบความตั้งใจของจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นเปิดเผยว่าตนมีปณิธานอันแรงกล้าที่จะสอบเป็นจอหงวนให้ได้เพื่อเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีให้วงศ์ตระกูล ที่สำคัญภรรยาจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป แต่ก็ต้องทอดถอนใจที่ตนปัญญาทึบ ไม่มีทางสอบได้เป็นจอหงวนอย่างแน่นอน ตุลาการลู่ได้ยินเช่นนั้นจึงตัดสินใจช่วยเหลือโดยทำความปรารถนาของจูเอ่อตั้นให้เป็นความจริงขึ้นมา ตกดึกตุลาการลู่ก็เข้าฝันจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นตกใจมากที่เห็นไส้ของตนทะลักออกมา ตุลาการลู่บอกจูเอ่อตั้นให้ทำใจดี ๆ ไม่ต้องกลัว ตนจะช่วยให้จูเอ่อตั้นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด นับแต่นั้นเป็นต้นมาจูเอ่อตั้นราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว จูเอ่อตั้นกลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่ทว่านับแต่นี้เป็นต้นไปชีวิตของจูเอ่อตั้นก็ไม่เป็นอันสงบสุขอีกต่อไปแล้ว จูเอ่อตั้นกลายเป็นคนทะนงตน เที่ยวรังแกคนอื่นหาความสำราญตามหอนางโลม เกิดความเบื่อหน่ายต่อภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา จูเอ่อตั้นรังเกียจที่ภรรยาที่หน้าตาอัปลักษณ์ ดังนั้นจึงเสาะแสวงหาหญิงอื่น ตุลาการลู่เกรงว่าตนจะแพ้เดิมพันต่อตุลาการซือถู ดังนั้นจึงตักเตือนจูเอ่อตั้นอย่าได้ทำความชั่ว จูเอ่อตั้นขอร้อง ตุลาการลู่ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้ภรรยาของตน โดยสาบานว่าถ้าภรรยาของตนมีใบหน้าที่งดงามแล้วตนจะซื่อสัตย์ต่อนาง ตุลาการลู่เห็นจูเอ่อตั้นให้คำมั่นเช่นนั้นจึงรับปากตามความปรารถนาของจูเอ่อตั้น แต่ก็ต้องขอเวลาหาใบหน้าที่เหมาะสมให้ได้เสียก่อน หลายวันต่อมาเสี่ยวม่านต้องการไปไหว้พระที่วัด โจรชั่วหยางต้าเหนียนหลงใหลในความงามของเสี่ยวม่าน หยางต้าเหนียนจับกุมตัวนางไปโดยหมายย่ำยีนาง เสี่ยวม่านต่อสู้ขัดขืน และแล้วหยางต้าเหนียนก็พลั้งมือฆ่าเสี่ยวม่านจนถึงแก่ความตาย จูเอ่อตั้นผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์พอดี ไม่เพียงไม่ช่วยชีวิตเสี่ยวม่าน เมื่อเห็นเสี่ยวม่านตายก็ร้องเรียกตุลาการลู่ โดยบอกตุลาการลู่ว่ามีใบหน้าที่เหมาะสมแล้ว ตุลาการลู่สำแดงอิทธิฤทธิ์เปลี่ยนใบหน้าให้เส้าหยงภรรยาของจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นดีใจมากเมื่อเห็นเส้าหยงภรรยาของตนกลายเป็นหญิงงาม แรกเริ่มเดิมทีนั้นเส้าหยงก็ต่อต้าน แม้ว่าเปลี่ยนใบหน้าแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำใจรับได้ เนื่องจากเปลี่ยนใบหน้าแต่ไม่ได้เปลี่ยนจิตใจ จูเอ่อตั้นดีใจมากที่เห็นภรรยาของตนมีใบหน้างดงาม แต่นึกไม่ถึงว่ากลับนำความรำคาญมาให้เสี่ยวหยง เนื่องจากมีผู้ชายจำนวนมากตามจีบนาง
ดวงวิญญาณของเสี่ยวม่านล่องลอยไปยังยมโลก กลายเป็นดวงวิญญาณไร้หัว ตุลการลู่รู้สึกละอายใจเป็นอันมาก ดังนั้นจึงหาทางให้เสี่ยวม่านไปเกิดโดยเร็วที่สุด แต่เสี่ยวม่านกลับไม่ยอมไปเกิดโดยต้องการพบกับพญามัจจุราชให้ได้ ตุลาการลู่เกรงว่าเสี่ยวม่านจะอาละวาด ดังนั้นจึงให้เสี่ยวม่านไปรับความทุกข์ทรมาณที่ขุมนรก ปกปิดความผิดของตน ศพไร้หัวของเสี่ยวม่านถูกพบ พ่อจำได้ว่าเป็นศพของเสี่ยวม่าน ไป๋หยางเศร้าโศกเสียใจยิ่งนักเมื่อรู้ว่าเสี่ยวม่านตายแล้ว ไป๋หยางเกิดความทุกข์ระทมแสนสาหัส ยังไม่ทันได้ล้างแค้นให้พ่อ ภรรยาก็มาถูกฆ่าตายอย่างอนาถ ไป๋หยางไปยังสถานที่เกิดเหตุที่เสี่ยวม่านถูกฆ่าตาย โดยหวังว่าจะจับตัวฆาตกรให้ได้ ต่อมาไป๋หยางได้พบกับเส้าหยงที่วัดโดยบังเอิญ ไป๋หยางตกใจมากที่ใบหน้าของเส้าหยงเหมือนกับเสี่ยวม่าน ไป๋หยางคาดคั้นเพื่อเอาความจริงจากเส้าหยง จูเอ่อตั้นเห็นเช่นนั้นจึงรีบขับไล่ไป๋หยางไป และแล้วเรื่องใบหน้าภรรยาจูเอ่อตั้นเปลี่ยนแปลงไปก็แพร่สะพัดไปทั่วจนเข้าถึงหูองครักษ์จาง องครักษ์จางสืบหาความจริงด้วยตนเอง จนพบว่าเส้นผมและใบหน้าของเส้าหยงเหมือนกับเสี่ยวม่านทุกประการ ศพของเสี่ยวม่านเป็นศพที่ไร้หัว องครักษ์จางสงสัยว่าจูเอ่อตั้นใช้วิชามารสับเปลี่ยนหัวเส้าหยงกับเสี่ยวม่าน ดังนั้นจึงฟ้องร้องดำเนินคดีกับจูเอ่อตั้น จูเอ่อตั้นซึ่งถูกจับกุมคุมขังนั้นได้วิงวอนขอความช่วยเหลือจากตุลาการลู่ ตุลาการลู่มีคำสั่งให้เสี่ยวม่านเข้าฝันพ่อของนาง โดยอธิบายความจริงให้พ่อฟังทำให้จูเอ่อตั้นพ้นผิดได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ อีกด้านหนึ่งนั้น ไป๋หยางกลับตามรังควานเส้าหยง เส้าหยงเกิดความสงสารไป๋หยาง ดังนั้นจึงเปิดเผยความจริงให้ไป๋หยางรู้ ไป๋หยางเคียดแค้นมากเมื่อรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของตุลาการลู่ ไป๋หยางไม่กลัวแม้แต่ความตาย โดยต้องการไปที่ยมโลกเพื่อตามหาเสี่ยวม่าน ตุลาการลู่ต้องการปกปิดความผิดของตน ดังนั้นจึงใช้ผลประโยชน์ล่อไป๋หยาง แต่ไป๋หยางกลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ไป๋หยางปฏิญาณว่าจะต้องช่วยเสี่ยวม่านให้ได้ นึกไม่ถึงว่าตุลาการลู่กลับถลำลึกลงไปอีก โดยให้ไป๋หยางไปทนทุกข์ทรมานที่ขุมนรก ตุลาการลู่คิดว่าเมื่อไป๋หยางและเสี่ยวม่านทนทุกข์ทรมาณไม่ไหวก็จะยอมแพ้ แต่นึกไม่ถึงว่าทั้งไป๋หยาง และ เสี่ยวม่านกลับไม่ยอมแพ้ต่อตุลาการลู่ แม้ว่าจะต้องทนทุกข์ทรมาณแสนสาหัสก็ตาม ไป๋หยางและเสี่ยวม่านต่างต้องทนทุกข์ทรมาณที่นรกขุมที่สิบแปด ปณิธานที่แน่วแน่ของเสี่ยวม่านและไป๋หยางนั้นเป็นที่เลื่อมใสต่อวิญญาณดวงอื่น ๆ วิญญาณดวงอื่น ๆ ต่างผนึกกำลังกันช่วยเสี่ยวม่านและไป๋หยางให้หลุดพ้นจากนรกขุมที่สิบแปด ไป๋หยางและเสี่ยวม่านพากันอาละวาดที่ยมโลกจนรู้ถึงพญามัจจุราช ไป๋หยางฟ้องร้องเพื่อเอาผิดตุลาการลู่ ในเวลาเดียวกันนี้เองผู้ตรวจการจากสวรรค์ได้มาตรวจการที่ยมโลกพอดี พญามัจจุราชไม่ต้องการให้เรื่องนี้ล่วงรู้ถึง เง็กเซียนฮ่องเต้ ด้วยตนจะมีความผิดที่ปกครองไม่ดี พญามัจจุราชปกป้องตุลาการลู่โดยให้ไป๋หยางและเสี่ยวม่านไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไป๋หยางและเสี่ยวม่านต่างขัดขืนไม่ยอมดื่มน้ำลืมอดีตของ เมิ่งผอ นายทวารหัวม้าหน้าวัว เห็นเช่นนั้นจึงนำน้ำลืมอดีตกรอกปากเสี่ยวม่านและไป๋หยาง เมิ่งผอเกิดความสงสารจึงแอบสับเปลี่ยนน้ำลืมอดีต ไป๋หยางไปเกิดเป็นหมูส่วนเสี่ยวม่านไปเกิดเป็นสุนัข ในที่สุดเรื่องราวก็จบลงด้วยดี จูเอ่อตั้นสอบได้เป็นจอหงวนกลายเป็นขุนนางใหญ่ จูเอ่อตั้นบริจาคเงินบูรณะซ่อมแซมวัด ไม่เพียงเท่านั้นจูเอ่อตั้นยังสร้างวัดให้ตุลาการลู่โดยปลูกสร้างติดกับวัดเง็กเซียน ควันธูปลอยคละคลุ้ง ตกดึกวัดที่จูเอ่อตั้นสร้างให้ตุลาการลู่ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ไฟลุกโชนยากนักที่จะดับไฟลงได้ จนไฟได้ลุกลามไปถึงวัดเง็กเซียน เรื่องนี้ร้อนไปถึงสวรรค์ เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงกริ้วมากถึงกับทรงตำหนิเจ้าที่ที่รักษาวัดไม่ดี โดยจะต้องสืบหาความจริงว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้อย่างไรมาให้ได้ เจ้าที่สืบพบว่าต้นเหตุของไฟไหม้มาจากหมูและสุนัข หมูและสุนัขถูกนำตัวไปรับผิดต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ จากนั้นหมูและสุนัขต่างก็พากันร้องเรียนต่อเง็กเซียนฮ่องเต้
|