หอชมจันทร์ก่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ทำให้ หลี่หลงจี ทรงกริ้วมากถึงกับมีรับสั่งประหารชีวิต หลี่ไป๋ เลยทีเดียว แต่เนื่องจากบทกวีบทหนึ่งซึ่งหลี่ไป๋เคยร่ำบทกวีบทนี้ขึ้นมาหลังจากที่ดื่มเหล้าจนเมามายซึ่งมีเนื้อหาว่า "เหตุใดฮ่องเต้จึงทรงรับสั่งให้ก่อสร้างหอชมจันทร์เพื่อนางปิศาจหยาง ถ้าไม่เห็นแก่อิฐแต่ละก้อน กระเบื้องแต่ละแผ่น ดุจดั่งไพร่ฟ้าประชาชน ตนอยากเผาทำลายสิ่งก่อสร้างที่เต็มไปด้วยบาปนี้เสียเหลือเกิน" หยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อ ฉวยโอกาสนี้ทูลใส่ไคล้ฮ่องเต้ให้ทรงเอาผิดหลี่ไป๋ ขณะที่สถานการณ์กำลังวิกฤตนั่นเอง หยางกุ้ยเฟย ได้ช่วยชีวิตหลี่ไป๋ไว้ โดยต้องการให้หลี่ไป๋แต่งบทกวีบทหนึ่งให้นาง หลี่ไป๋แต่งบทกวีบทหนึ่งจนเป็นที่พอพระทัยฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งชมเชยความสามารถทางบทกวีของหลี่ไป๋สมกับที่เป็นนักกวีอันดับหนึ่งของแผ่นดิน แม้ว่าหลี่ไป๋ได้รับอภัยโทษ ทั้งยังได้รับคำชมเชยจากฮ่องเต้ แต่กลับทำให้หยางกั๋วจงยิ่งเกิดความเคียดแค้นหลี่ไป๋เป็นทวีคูณ สี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอ หนุ่มสาวคู่รักคู่หนึ่ง เนื่องจากสี่เหอจื่อได้รับการคัดเลือกเป็นหญิงงามจึงถูกส่งตัวเข้าวังหลวง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอถูกบังคับให้พลัดพรากจากกัน ในวังหลวงสี่เหอจื่อทาหน้าจนดำเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของหยางกุ้ยเฟยและ สนมเหมย สี่เหอจื่อจึงถูกส่งตัวไปทำงานซักเสื้อผ้า หยิ่นม่งเหอต้องการช่วยสี่เหอจื่อ ดังนั้นจึงเข้าไปทำงานที่ตำหนักของหยางกุ้ยเฟย หยิ่นม่งเหอวางแผนและหาโอกาสได้พบหน้ากับสี่เหอจื่อ สนมเหมยและหยางกุ้ยเฟยต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ สนมทั้งสองเดิมพันตีไก่ที่พระตำหนักหลวง ถ้าหากไก่ของใครชนะ ฮ่องเต้จะทรงประทับที่ตำหนักกของผู้ชนะ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้หลี่ไป๋เป็นกรรมการ เกาลี่ซื่อดูแลเหล้าพระราชทานจากฮ่องเต้ หลี่ไป๋ดื่มเหล้าจนเมามายและได้ฆ่าไก่ชนทั้งสองตาย ทำให้ฮ่องเต้ทรงหมดอารมณ์ เฮ่อจือจาง มองออกว่าหลี่ไป๋มีความในใจ ดังนั้นจึงได้ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนกับหลี่ไป๋
หลี่ไป๋ทอดถอนใจที่ฮ่องเต้ทรงไม่ให้ความสนพระทัยต่อราชกิจ พระองค์สนพระทัยแต่เพียงแสวงหาความสำราญกับหญิงงามเท่านั้น ถ้าหากถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป ปณิธานที่ตนจะสนองคุณบ้านเมืองก็ไม่มีวันที่จะกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ดื่มเหล้าเมาไปวัน ๆ หนิงไฉ่ ซึ่งเข้าวังหลวงมาพร้อมกับสี่เหอจื่อนั้นได้ทำให้ฉลองพระองค์ของฮ่องเต้เปรอะเปื้อน ทำให้เกาลี่ซื่อลงโทษจนถึงแก่ความตาย สี่เหอจื่อเกิดความอาดูรจึงร้องเพลงเพลงหนึ่งขึ้นมาเพื่อไว้อาลัยให้แก่หนิงไฉ่ เสียงเพลงแว่วไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ เสียงเพลงที่สดับนั้นราวกับนางฟ้ามาจุติ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้เกาลี่ซื่อตามหาหญิงสาวที่ร้องเพลงนี้ แต่เกาลี่ซื่อกลับหาไม่พบ ทำให้ฮ่องเต้ทรงไม่พอพระทัยยิ่งนัก หลี่ไป๋ทูลให้คำมั่นต่อฮ่องเต้ว่าจะตามหาหญิงสาวที่ร้องเพลงให้พบภายในสิบวัน สี่เหอจื่อสาบานว่าแม้ว่านางต้องตาย นางก็ยังเป็นคนของ หยิ่นม่งเหอ นางไม่มีวันให้ฮ่องเต้ได้ครอบครองตัวนาง อาฟ่ง ต้องการใกล้ชิดฮ่องเต้ สี่เหอจื่อนั้นแม้ว่าต้องตายก็จะเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้ชายคนรัก เกาลี่ซื่อตามหาหญิงสาวที่ร้องเพลง หูไหล กล่าวว่าเป็นเสียงร้องเพลงของอาฟ่ง เกาลี่ซื่อรู้ดีว่าเข้าใจว่าเสียงของอาฟ่ง ดังนั้นจึงพาอาฟ่งเข้าพระตำหนักหลวงเพื่อร้องเพลงถวายฮ่องเต้ เดิมทีสนมเหมยคิดว่าอาฟ่งสามารถสร้างความสำราญให้ฮ่องเต้ได้ แต่นึกไม่ถึงว่าเสียงเพลงของอาฟ่งนั้นกลับสร้างความผิดหวังให้ฮ่องเต้ยิ่งนัก สนมเหมยไม่ยอมแพ้ นางเชื่อว่าหยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อจะต้องกลั่นแกล้งนางอย่างแน่นอน หลี่ไป๋ดื่มเหล้าไปพลางสอบถามเรื่องเสียงเพลง สนมเหมยสืบพบว่าเจ้าของเสียงเพลงที่แท้จริงคือสี่เหอจื่อ เพื่อช่วยชีวิตอาฟ่งที่มีความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง สี่เหอจื่อจึงปฏิบัติตามคำแนะนำของสนมเหมย โดยให้ร่วมร้องเพลงกับอาฟ่ง ฮ่องเต้ทรงเคลิบเคลิ้มในเสียงเพลง พระองค์จึงทรงแต่งตั้งอาฟ่งเป็นฟ่งเป่าหลิน หยิ่นม่งเหอออกอุบายช่วยหยางกั๋วจงพ้นจากความผิดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่หอชมจันทร์ ในที่สุดหยิ่นม่งเหอก็มีโอกาสเข้าวังหลวง และแล้วหยิ่นม่งเหอก็ได้พบกับสี่เหอจื่อ แต่นึกไม่ถึงว่ากลับถูกสนมเหมยจับได้ว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน หยิ่นม่งเหอโกหกว่าคนสกุลหยางถูกส่งตัวไปที่ตำหนักหยางกุ้ยเฟย แต่ต่อมาพบว่ามีรอยบาดแผลที่ข้อมือ ดังนั้นจึงถูกหยางกุ้ยเฟยคุมขัง หลี่ไป๋ชื่นชมบทความของหยิ่นม่งเหอ ดังนั้นจึงอยากทำความรู้จักเอาไว้
ต่อมาหลี่ไป๋ถึงรู้ว่าหลังจากที่หยิ่นม่งเหอเข้าวังหลวงมาแล้วก็หายสาบสูญไปจนทุกวันนี้ สนมเหมยแนะนำสี่เหอจื่อไปขอร้องหลี่ไป๋ให้ช่วยเหลือหยิ่นม่งเหอ แต่คำพูดเพียงประโยคเดียวที่ว่าเป็นคนโปรดของหยางกุ้ยเฟยนี้เองกลับทำให้หลี่ไป๋เดือดดาลขึ้นมา หยางกุ้ยเฟยพบว่าสนมเหมยปล่อยให้อาฟ่งและสี่เหอจื่อสมคบกันหลอกลวงฮ่องเต้ วันรุ่งขึ้น หยางกุ้ยเฟยทูลเชิญฮ่องเต้เสด็จฟังบทเพลงของฟ่งเป่าหลิน และแล้วอาฟ่งและสี่เหอจื่อก็ถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าหลอกลวงฮ่องเต้ สี่เหอจื่อยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเพื่อช่วยชีวิตอาฟ่ง ฮ่องเต้ทรงลุ่มหลงในความงามและทรงเคลิบเคลิ้มในเสียงเพลงของสี่เหอจื่อ พระองค์จึงทรงแต่งตั้งสี่เหอจื่อเป็นนางงานหย่งซิน สนมเหมยทูลฮ่องเต้ให้ชื่นชมความงามของสี่เหอจื่อ แต่กลับถูกหยางกุ้ยเฟยขัดขวาง หยางอี้หวน ต้องการเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ดังนั้นจึงขอร้องหยางกั๋วจงคิดหาหนทางให้สี่เหอจื่อไปจากฮ่องเต้ เกาลี่ซื่ออ้างว่าจะพานางงามหย่งซินไปที่ตำหนักของหยางกุ้ยเฟย ระหว่างทางกลับปล่อยให้เว่ยชิงจับตัวสี่เหอจื่อไป หลี่ไป๋พบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลี่ไป๋ซึ่งไม่ชอบสกุลหยางที่ถืออำนาจบาตรใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจช่วยเหลือสี่เหอจื่อ แม้ว่าจะไม่รู้จักนางก็ตาม เว่ยชิงถูกหยางกั๋วจงหลอกให้ครอบครองเรือนร่างของสี่เหอจื่อ สี่เหอจื่อโกหกเว่ยชิงว่านางคือฟ่งเป่าหลิน ไม่ใช่นางงามหย่งซินแต่อย่างใด ทำให้เว่ยชิงคิดว่าเป็นความจริงตามที่นางพูด หลี่ไป๋นำป้ายทองของสนมเหมยไปที่จวนของเว่ยชิงเพื่อให้เว่ยชิงปล่อยตัวนางงานหย่งซินออกมา หลี่ไป๋สยบเว่ยชิงลงได้ เว่ยชิงยอมแพ้ โดยบอกหลี่ไป๋ว่าตนได้ปล่อยคนไปแล้ว สี่เหอจื่อไปหาหยิ่นม่งเหอที่โรงเตี๊ยมแต่กลับไม่พบ ต่อมา สี่เหอจื่อถึงได้พบกับหลี่ไป๋ซึ่งตามหานาง สี่เหอจื่อเหน็บแนมหลี่ไป๋ที่กล้าดึงหนวดเสือ กล้าล่วงเกินเว่ยชิง หลี่ไป๋หัวเราะโดยกล่าวแต่เพียงว่าสักวันสี่เหอจื่อจะเข้าใจ หลี่ไป๋ดึงสี่เหอจื่อขึ้นหลังม้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่อย่างใด หลี่ไป๋กล่าวกับนายทวารประจำวังหลวงว่านางงามหย่งซินยังชื่นชมตนเลยว่ากล้าดึงหนวดเสือ ท่านยังคิดว่าตนเป็นพวกเสือผู้หญิงเช่นเดียวกับเว่ยชิงหรือไม่ สี่เหอจื่อขบขันกับคำพูดของหลี่ไป๋ หลี่ไป๋ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดสี่เหอจื่อจึงไม่ขอบคุณที่ตนช่วยชีวิตนางไว้ ในทางกลับกันกลับต่อว่าต่อขานตนเสียอีก เกาลี่ซื่ออ้างราชโองการฮ่องเต้ทำให้อาฟ่งเข้าใจผิดว่าสี่เหอจื่อทำตัวเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ที่อุทยาน เกาลี่ซื่อแนะนำอาฟ่งให้วางยาสี่เหอจื่อเพื่อให้นางเป็นใบ้ หูไหลได้ยินคำสนทนาของเกาลี่ซื่อและอาฟ่ง ดังนั้นจึงนำความไปบอกสี่เหอจื่อให้ระวังตัวให้ดี เพื่อจะไปจากวังหลวงและได้พบกับหยิ่นม่งเหอในเร็ววัน สี่เหอจื่อจึงซ้อนแผนโดยแสร้งทำเป็นใบ้
ฮ่องเต้ทรงตกพระทัยยิ่งนักเมื่อทรงรู้ว่าสี่เหอจื่อเป็นใบ้ ฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้เฮ่อจือจางสืบหาความจริงเรื่องนี้ หยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อนึกถึงคำพูดของหยางอี้หวนที่ต้องการให้ฆ่าคนปิดปาก เกาลี่ซื่อสั่งขันทีโยนอาฟ่งลงแม่น้ำ หยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อทูลฮ่องเต้ว่าบทกวีที่หลี่ไป๋แต่งให้หยางกุ้ยเฟยนั้นมีเจตนาลบหลู่พระองค์ ฮ่องเต้ทรงหลงเชื่อจึงทรงมีรับสั่งให้ประหารหลี่ไป๋ สนมเหมยคิดว่าสี่เหอจื่อเป็นที่ทรงโปรดของฮ่องเต้ มีนางเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตหลี่ไป๋ไว้ได้ หลี่ไป๋รำพันว่าการที่ตนแต่งบทกวีขึ้นมานั้นเพื่อให้เป็นที่กล่าวขาน ไฉนเลยจะกล้าล่วงเกินเบื้องสูง เมื่อได้เข้ามาสัมผัสในวังหลวง ถึงได้รู้ว่าตนไม่เหมาะกับสถานที่แห่งนี้ ที่ห้องบรรทมของฮ่องเต้ ขณะที่ฮ่องเต้ทรงหาความสำราญจากการชื่นชมเรือนร่างของสี่เหอจื่อนั่นเอง ทันใดนั้นก็มีนักฆ่าบุกเข้ามาในวังหลวง หลี่ไป๋รับมือกับนักฆ่า แต่น่าเสียดายที่นักฆ่าหลบหนีไปได้ เมื่อเห็นสี่เหอจื่อในสภาพที่เนื้อตัวสั่นเทา หลี่ไป๋หยิบมีดสั้นที่นักฆ่าทำตกไว้ฟันไปที่ไหล่ของสี่เหอจื่อ เนื่องจากสี่เหอจื่อได้รับบาดเจ็บ ทำให้สี่เหอจื่อรอดพ้นไม่ต้องตกเป็นของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงคืนตำแหน่งให้หลี่ไป๋ดังเดิม หลี่ไป๋ทูลฮ่องเต้ว่าตนไม่อยากเป็นขุนนางที่เปรียบเสมือนแจกันดอกไม้เท่านั้น มีหลายสิ่งที่ตนอยากทำ สี่เหอจื่อไปหาหลี่ไป๋เพื่อแสดงความขอบคุณหลี่ไป๋ที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ หลี่ไป๋ดีใจมากที่สี่เหอจื่อเข้าใจความหมายจากบทกวีของตน วันหนึ่ง ขณะที่หลี่ไป๋ดื่มเหล้า หลี่ไป๋พบว่าอาฟ่งยังไม่ตาย นางถูกพาตัวกลับมาที่วังหลวงแล้ว สี่เหอจื่อขอร้องหลี่ไป๋ให้ช่วยชีวิตหยิ่นม่งเหอ นอกจากนี้ยังขอร้องหลี่ไป๋ให้เก็บความลับที่นางแสร้งทำเป็นใบ้เอาไว้ หลี่ไป๋เลื่อมใสสี่เหอจื่อที่ไม่เห็นแก่ลาภยศอำนาจ หลี่ไป๋ไปที่โรงเตี๊ยม นำคำพูดที่สี่เหอจื่อฝากมาบอกหยิ่นม่งเหอให้ไปจากฉางอัน หยางอี้หวนนำเรื่องที่หยิ่นม่งเหอหายไปจากห้องขังไปบอกหยางกั๋วจง ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งว่าถ้ายังไม่สามารถรักษาสี่เหอจื่อให้หายเป็นปกติก่อนถึงวันไหว้พระจันทร์ หมอหลวงจะต้องถูกประหารชีวิต หลี่ไป๋บอกเฮ่อจือจางว่านางงามหย่งซินไม่มีทางดูดายเมื่อเห็นคนกำลังจะตายเป็นอันขาด เมื่อถึงวันไหว้พระจันทร์ ขณะที่ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งประหารชีวิตหมอหลวงนั่นเอง สี่เหอจื่อก็ร้องเพลงออกมา ฮ่องเต้ทรงปิติยินดียิ่งนัก พระองค์จึงทรงอภัยโทษให้หมอหลวง สนมเหมยข่มขู่สี่เหอจื่อว่าถ้าหากนางต้องการรักษาชีวิตหยิ่นม่งเหอเอาไว้ สี่เหอจื่อจะต้องปฏิบัติตามความต้องการของนาง ถ้าหากสี่เหอจื่อขัดขืน นางจะนำความทูลฮ่องเต้ถึงเรื่องของหยิ่นม่งเหอ เพื่อให้ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งประหารหยิ่นม่งเหอ ฮ่องเต้ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะครอบครองเรือนร่างของสี่เหอจื่อ สี่เหอจื่อร้อนใจมากจึงขอร้องหูไหลให้ไปขอความช่วยเหลือจากหลี่ไป๋ หลี่ไป๋ในสภาพที่เมามายดื่มเหล้ากับฮ่องเต้จนถึงเช้า หลี่ไป๋จับจ้องไปที่ฮ่องเต้ ในใจนั้นยากที่จะบรรยายออกมาได้ สี่เหอจื่อขอบคุณหลี่ไป๋ที่ให้ความช่วยเหลือนาง หลี่ไป๋บอกสี่เหอจื่อว่า แม้ว่าตนจะเป็นบัณฑิตก็ตาม แต่ฐานะของตนก็ไม่อาจเทียบได้กับนกน้อยในกรงทองของฮ่องเต้ หยางอี้หวนได้รับคำสั่งจากหยางกั๋วจงให้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงโบตั๋นกับสี่เหอจื่อ องค์หญิงโบตั๋นทรงเข้าพระทัยว่าสี่เหอจื่อทำให้ฮ่องเต้ทรงลุ่มหลงจนทำให้ไม่มีเวลาสนพระทัยราชกิจ ด้วยความกริ้ว
องค์หญิงโบตั๋นทรงขับไล่สี่เหอจื่อไปจากวังหลวง ฮ่องเต้ทรงตระหนักดีว่าการที่องค์หญิงโบตั๋นทรงขับไล่สี่เหอจื่อไปจากวังหลวงนั้นต้องถูกสองพี่น้องสกุลหยางใส่ไคล้มาอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ฮ่องเต้ทรงไม่พอพระทัยหยางอี้หวนเป็นอันมาก ฮ่องเต้ทรงรับสั่งให้หลี่ไป๋วาดภาพเหมือนของสี่เหอจื่อขึ้นมา เพื่อแสดงความคิดถึงสี่เหอจื่อ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้บัณฑิตที่เข้าสอบเขียนบทความพรรณนาถึงนางงามหย่งซิน องค์หญิงโบตั๋นทรงลงเรือสำรวจความเสียหายของพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากแม่น้ำฮวงโห เมื่อเสด็จถึงวังหลวง องค์หญิงโบตั๋นก็นำความกราบทูลฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงรับสั่งให้หลี่ไป๋สำรวจความเสียหายที่เกิดจากแม่น้ำฮวงโห สนมเหมยต้องการให้สี่เหอจื่อยอมรับว่าหยิ่นม่งเหอตายแล้ว สี่เหอจื่อเห็นถุงผ้าที่นางมอบให้หยิ่นม่งเหอเท่านั้น นางก็เป็นลมหมดสติไปทันที สี่เหอจื่อคิดฆ่าตัวตาย สนมเหมยช่วยชีวิตสี่เหอจื่อไว้ หมอหลวงต้องการตอบแทนบุญคุณที่สี่เหอจื่อเคยช่วยชีวิตตนไว้ ดังนั้นจึงแต่งเรื่องโกหกว่าสี่เหอจื่อถูกผีเข้าสิง องค์หญิงโบตั๋นทูลฮ่องเต้ว่าหวงปั้งสามารถรักษาสี่เหอจื่อให้หายเป็นปกติได้ หยิ่นม่งเหอซึ่งอยู่นอกวังหลวงนั้นได้สวมรอยเป็นหวงปั้ง หลี่ไป๋กราบทูลฮ่องเต้ว่าพสกนิกรได้รับความทุกข์ทรมานจากภัยพิบัติเป็นอันมาก ฮ่องเต้ทรงไม่เข้าพระทัยว่าเหตุใดสิ่งของที่ส่งไปบรรเทาทุกข์กลับไม่เพียงพอ หยิ่นม่งเหออ้างว่ามาขับไล่วิญญาณร้ายในวังหลวง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หยิ่นม่งเหอลอบเข้าวังหลวงเป็นผลสำเร็จ หยิ่นม่งเหอทูลฮ่องเต้ให้ทรงอนุญาตให้นางงามหย่งซินออกจากวังหลวงเพื่อหลบเลี่ยงวิญญาณร้ายที่จะตามมารังควาน เมื่อผ่านพ้นเทศกาลปล่อยผีแล้วค่อยให้นางกลับวังหลวง หลี่ไป๋ไม่เชื่อเรื่องภูตผีปิศาจสักเท่าใดนัก ขณะที่สี่เหอจื่อรีบร้อนออกจากวังหลวงนั่นเอง กลับถูกหลี่ไป๋ขัดขวางไว้ หลี่ไป๋ซึ่งไม่รู้ความในแต่อย่างใด ด้วยเจตนาดีจึงพาสี่เหอจื่อกลับวังหลวง ต่อมาหลี่ไป๋ถึงได้รู้ความจริง เมื่อรู้ความจริงแล้วจึงปล่อยหยิ่นม่งเหอไปจากฉางอัน วันประกาศผลสอบจอหงวน เกาลี่ซื่อรับสินบน หยางกั๋วจงซ้อนแผน โดยต้องการให้หยิ่นม่งเหอเข้าวังหลวง เพื่อหาโอกาสกำจัดพร้อมกันกับสี่เหอจื่อ หลี่ไป๋เตือนหยิ่นม่งเหอว่าวังหลวงเต็มไปด้วยอันตราย ขอให้ระวังตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วจะเดือดร้อนถึงสี่เหอจื่อ
เพื่อแสวงหาประโยชน์ใส่ตัว หยางกุ้ยเฟยตัดสินใจรับสี่เหอจื่อมาที่ตำหนักของนาง จากนั้น หยางกุ้ยเฟยก็พรรณนาถึงความทุกข์ยากในวังหลวงให้สี่เหอจื่อฟัง หยางกุ้ยเฟยให้คำมั่นสัญญาต่อสี่เหอจื่อว่าจะปกป้องคุ้มครองนางอย่างดี สนมเหมยเกรงว่าแผนการของนางจะล้มเหลว ดังนั้นจึงไปที่ตำหนักของหยางกุ้ยเฟย เพื่อกำชับสี่เหอจื่อให้ระวังตัวให้ดี ด้วยอาจจะถูกคนปองร้าย หลี่ไป๋กำลังร่ำสุรา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่โศกเศร้าอาดูรดังแว่วมา ที่แท้เป็นเสียงของอินจือซืออาจารย์ของสี่เหอจื่อ หลี่ไป๋พาสี่เหอจื่อออกจากวังหลวงเพื่อพบกับอินจือซือ แต่กลับถูกเกาลี่ซื่อพบเห็นเข้า เกาลี่ซื่อเห็นเช่นนั้นจึงวางแผนปองร้าย อินจือซือซึ่งทำนายดินฟ้าอากาศได้อย่างแม่นยำ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่เฒ่าพยากรณ์ อินจือซือชื่นชมความสามารถทางบทกวีของหลี่ไป๋ยิ่งนัก แม้ว่าฮ่องเต้และขุนนางจะมีฐานะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่นับถือเป็นพี่น้องกันได้ หลี่ไป๋มีความอัดอั้นตันใจมากมายยากจะบรรยายออกมาได้ ได้แต่ร่ำสุรา แต่งบทกวีขึ้นมาเพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกเท่านั้น หยางกุ้ยเฟยส่งลิ้นจี่ให้เป็นการแอบให้ความช่วยเหลือสี่เหอจื่อ ฮ่องเต้ทรงสัมภาษณ์บัณฑิตที่ผ่านการคัดเลือก ทำให้หยิ่นม่งเหอมีโอกาสแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ฮ่องเต้ทรงชื่นชมความสามารถของหยิ่นม่งเหอ พระองค์จึงทรงแต่งตั้งหยิ่นม่งเหอเป็นจอหงวน เกาลี่ซื่อวางยาสี่เหอจื่อเพื่อให้นางหมดสติไป จากนั้นค่อยส่งนางไปยังห้องนอนของหลี่ไป๋ สี่เหอจื่อถูกเปลือยกายล่อนจ้อน โดยโยนความผิดให้หลี่ไป๋ นึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้ถูกสนมเหมยพบเห็นเข้าเสียก่อน ทำให้สี่เหอจื่อไม่ต้องถูกนำตัวไปที่บ้านพักของหลี่ไป๋ แต่นางกลับถูกนำตัวไปยังตำหนักของสนมเหมย หลี่ไป๋กำลังดื่มเหล้ากับเฮ่อจือจางและพี่น้องสกุลหยิ่น ขณะที่สนทนากันอยู่นั่นเอง หยิ่นม่งเหอพบว่าสี่เหอจื่อได้รับการแต่งตั้งให้สนมเกลอ หลี่ไป๋เห็นสี่เหอจื่อเป็นเพื่อนที่รู้ใจ ดังนั้นจึงเกิดความกลัดกลุ้มใจขึ้นมา สี่เหอจื่อต้องการตอบแทนบุญคุณสนมเหมยที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ นางจึงรับปากสนมเหมยว่าจะปรนนิบัติฮ่องเต้เป็นอย่างดี เพื่อให้หยางอี้หวนไม่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้อีกต่อไป ฮ่องเต้ทรงพระราชทานงานเลี้ยงให้จอหงวนคนใหม่ หลี่ไป๋กำชับสี่เหอจื่อว่าให้ทำเป็นไม่รู้จักกับหยิ่นม่งเหอ เพื่อป้องกันไม่ให้ภัยถึงตัว ที่ตำหนักหลวง หยิ่นม่งเหอเข้าใจผิดคิดว่าสี่เหอจื่อปันใจ ทำให้หยิ่นม่งเหอหมดอาลัยตายอยาก หลี่ไป๋คลี่คลายสถานการณ์ หยางกุ้ยเฟยวางยาฮ่องเต้ ทำให้สี่เหอจื่อรอดพ้นจากฮ่องเต้ไปได้อีกคราหนึ่ง
เกาลี่ซื่อและหยางกั๋วจงได้มอบหมายให้หยิ่นม่งเหอตรวจสอบบัญชีเงินที่ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่องค์รัชทายาทหลี่เฮิงดูแลอยู่ เรื่องนี้ทำให้องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงประหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมา องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงตัดสินพระทัยใช้อาฟ่งเป็นไพ่ใบสำคัญเพื่อรับมืออกับเกาลี่ซื่อและหยางกั๋วจง ในที่สุดโอกาสล้างแค้นของสนมเหมยก็มาถึง อาฟ่งทูลฮ่องเต้ว่านางได้รับคำสั่งให้วางยาสี่เหอจื่อให้เป็นใบ้ เกาลี่ซื่อต้องการเอาตัวรอดจึงทูลว่าตนได้รับคำสั่งจากหยางกุ้ยเฟย ฮ่องเต้ทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งขับไล่หยางอี้หวนไปจากพระตำหนักหวง หยางกุ้ยเฟยและเกาลี่ซื่อต่างมองออกว่าหยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อต่างมีใจให้กัน ดังนั้นจึงทูลฮ่องเต้โดยให้พระองค์ทรงมีรับสั่งให้สี่เหอจื่อร้องเพลงเป็นรางวัลให้หยิ่นม่งเหอจอหงวนคนใหม่ ในงานแต่งตั้งจอหงวนคนใหม่ ขุนนางน้อยใหญ่ต่างพากันมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลี่ไป๋และเฮ่อจือจางก็มาร่วมงานด้วยเช่นเดียวกัน องค์หญิงโบตั๋นซึ่งเสด็จมาร่วมงานทรงโปรดปรานหยิ่นม่งเหอทันทีที่แรกพบ หยิ่นม่งเหอรู้สึกว่าแม้ว่าคนรักอยู่ตรงหน้าก็ไม่สามารถเข้าไปทักทายได้ สี่เหอจื่อร้องเพลงเต้นรำ ทันใดนั้นเองสี่เหอจื่อก็เป็นลมหมดสติไป หยิ่นม่งเหอเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปพยุงนาง หลี่ไป๋เข้าขัดขวางหยิ่นม่งเหอ หลี่ไป๋นึกขึ้นได้ว่าหยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อเป็นคนรักกันมาก่อน ตนเป็นเพียงคนแอบชอบสี่เหอจื่อเท่านั้น หลี่ไป๋ตัดสินใจช่วยหยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อได้ครองรักกัน สี่เหอจื่อไหว้วานหลี่ไป๋ให้มอบยาให้หยิ่นม่งเหอ หลี่ไป๋เย้ยหยันตัวเองที่เป็นเพียงคนกลางที่เชื่อมโยงความรักของหยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อเท่านั้น ความจริงใจของสี่เหอจื่อกลับนำมาซึ่งความเย็นชาของหยิ่นม่งเหอ หยิ่นม่งเหอเข้าใจผิดหลี่ไป๋ หลี่ไป๋อธิบายความจริงให้หยิ่นม่งหยุนฟัง เกาลี่ซื่อและหยางกั๋วจงทูลฮ่องเต้ให้ทรงพระราชทานงานแต่งงานให้หยิ่นม่งเหอและองค์หญิงโบตั๋น หยิ่นม่งเหอทูลปฏิเสธพระเมตตาของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้วมาก เกาลี่ซื่อจึงฉวยโอกาสนี้ทูลฮ่องเต้ว่าหยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน หยางกุ้ยเฟยเกิดความประทับใจในรักแท้ของสี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอที่มีต่อกัน ทำให้หยางกุ้ยเฟยตัดสินใจให้สี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอนั่งเกี้ยวส่วนตัวของนางออกจากเมืองหลวง แม้ว่าความสำเร็จอยู่เบื้องหน้าแล้วก็ตาม แต่หยิ่นม่งเหอกลับเห็นแก่ชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ไปจากเมืองหลวง หยิ่นม่งเหอตรวจสอบบัญชีเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่องค์รัชทายาททรงดูแลอยู่ องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ โดยแอบติดต่อกับอันลี่ซัน สนมเหมยบีบบังคับหมอหลวงให้ทูลฮ่องเต้ว่าสี่เหอจื่อมีสุขภาพที่แข็งแรง สมควรที่จะรีบจัดงานมงคล ฮ่องเต้แคว้นชิตานทรงส่งราชฑูตแคว้นชิตานมาทาบทามองค์หญิงโบตั๋นให้อภิเษกกับพระองค์ แต่กลับถูกฮ่องเต้ต้าถังปฏิเสธ ฮ่องเต้ทรงคิดถึงแต่งานมงคลของพระองค์ หลี่ไป๋หาหนทางให้หยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อได้พบหน้ากัน โดยบอกหยิ่นม่งเหอให้ไปหาสี่เหอจื่อที่บ้านของอินฉือซือ เดิมทีหยางกั๋วจงคิดจะจับหยิ่นม่งเหอให้ได้คาหนังคาเขา แต่นึกไม่ถึงว่ากลับจับได้แต่หยิ่นม่งหยุนและอาฟ่ง หลี่ไป๋ทูลขอพระเมตตาจากฮ่องเต้ให้ทรงอภัยโทษให้แก่หยิ่นม่งหยุนและอาฟ่ง แต่ฮ่องเต้ทรงมีพระราชประสงค์ให้อาฟ่งอภิเษกกับฮ่องเต้ชิตานแทนองค์หญิงโบตั๋น องค์หญิงโบตั๋นทรงหมายปองหยิ่นม่งเหอ
ฮ่องเต้ทรงมอบหมายให้สนมเหมยหาฤกษ์มงคลที่จะจัดงานอภิเษกให้องค์หญิงโบตั๋นกับหยิ่นม่งเหอ องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงเปิดเผยความลับให้ราชฑูตชิตานรู้ว่าฮ่องเต้ทรงให้อาฟ่งอภิเษกกับฮ่องเต้ชิตานแทนองค์หญิงโบตั๋น ที่ท้องพระโรง ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้หยิ่นม่งเหอเข้าเฝ้า ทันใดนั้นเอง ราชฑูตชิตานก็บุกเข้ามายังท้องพระโรง จากนั้นก็ทวงองค์หญิงโบตั๋นจากฮ่องเต้ มิฉะนั้นแล้วก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสงครามไปได้อย่างแน่นอน ฮ่องเต้ทรงรับสั่งเลิกประชุมขุนนาง หยางอี้หวนประสบความสำเร็จในการใช้ผลประโยชน์เข้าล่อเกาลี่ซื่อ ฮ่องเต้ทรงกลัดกลุ้มพระทัยยิ่งนัก ในเวลานี้เองกลับทำให้พระองค์ทรงคิดถึงหยางอี้หวนขึ้นมา ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้หยางกุ้ยเฟยกลับวังหลวง ทำให้สกุลหยางจากร้ายกลายเป็นดี หยางกุ้ยเเฟยวางเขื่องต่อหน้าพระพักตร์องค์หญิงโบตั๋น ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งว่าจะประกาศสงครามกับแคว้นชิตาน
องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงฉวยโอกาสนี้สร้างความดีความชอบ หลี่ไป๋กล่าวถึงแสนยานุภาพของแคว้นชิตานที่เกรียงไกร แต่กลับไม่มีใครใยดีคำพูดของหลี่ไป๋ ที่ท้องพระโรง ขุนนางใหญ่ทั้งหลายต่างมีความต้องการให้ปัญหายุติอย่างสงบ หลีกเลี่ยงการทำสงคราม ข้าศึกอยู่ตรงหน้า องค์หญิงโบตั๋นทรงนำทัพออกศึก ความกล้าหาญขององค์หญิงโบตั๋นทำให้หยิ่นม่งเหอเกิดความเลื่อมใส หยิ่นม่งเหอส่งเสด็จองค์หญิงโบตั๋นถึงชายแดน หลี่ไป๋กลัดกลุ้มใจด้วยสถานการณ์บ้านเมือง ขณะที่หลี่ไป๋และหยิ่นม่งเหอดื่มเหล้าร่ำลากันนั่นเอง หลี่ไป๋เตือนหยิ่นม่งเหอว่าอันลี่ซันทะนงตน เชื่อว่าจะต้องมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ด้วยกำลังทหารที่เข้มแข็ง ถ้าหากจะโค่นล้มราชบัลลังก์ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด หยิ่นม่งเหอนำบัญชีเงินที่ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงดูแลอยู่นั้นมอบให้หลี่ไป๋ หยิ่นม่งเหอบอกหลี่ไป๋ว่าตนสืบพบเบาะแสบางอย่างแล้ว ขอให้หลี่ไป๋สานงานต่อ โดยให้เห็นแก่พสกนิกรเป็นสำคัญ ระหว่างทางที่หยิ่นม่งเหอและองค์หญิงโบตั๋นออกเดินทางไปนั้นสืบพบว่าผู้บงการเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่หอชมจันทร์คือองค์รัชทายาทหลี่เฮิง หวังชื่อซื่อคนวางเพลิงเห็นว่าความลับถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ด้วยเกรงว่ามีความผิดจึงผูกคอฆ่าตัวตาย อันลี่ซันจัดงานเลี้ยงให้กองทัพ โดยมีวัตถุประสงค์ตรวจสอบอำนาจทางทหารของฮ่องเต้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์ อันลี่ซันสังหารชาวชิตานต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ ไม่เพียงเท่านั้นยังขันอาสาอารักขาองค์หญิงโบตั๋นเสด็จกลับฉางอันอย่างปลอดภัยอีกด้วย หลี่ไป๋ตรวจสอบบัญชีเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่องค์รัชทายาทหลี่เฮิงทรงดูแลอยู่นั้นอย่างละเอียด ถึงแม้ว่ามีหลักฐานที่สามารถเอาผิดองค์รัชทายาทหลี่เฮิงได้ แต่หลี่ไป๋กลับถูกฮ่องเต้ทรงตำหนิ หลี่ไป๋สุดที่จะทนต่อการถูกลบหลู่ ดังนั้นจึงทูลลากลับบ้านเกิด หลี่ไป๋ดื่มเหล้าจนเมามาย จากนั้นก็รำพันออกมาว่าแผ่นดินต้าถังรุ่งเรืองถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีคนจริงใจแม้แต่คนเดียว ความรุ่งเรืองและเสื่อมทรามเป็นสัจธรรมของโลก ฮ่องเต้ทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งให้คุมขังหลี่ไป๋ องค์หญิงโบตั๋นเสด็จถึงฉางอันอย่างปลอดภัย ฮ่องเต้ทรงปิติยินดียิ่งนักจึงทรงอภัยโทษให้หลี่ไป๋ ฮ่องเต้ทรงรับสั่งพระราชทานพิธีอภิเษกขององค์หญิงโบตั๋นและหยิ่นม่งเหออย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ฮ่องเต้ยังทรงมีรับสั่งถึงงานมงคลของพระองค์กับสี่เหอจื่อที่จะจัดขึ้นอีกสามวันข้างหน้า วันมงคลใกล้เข้ามาทุกที หลี่ไป๋วางแผนให้หยิ่นม่งเหอและสี่เหอจื่อหลบหนีไปจากวังหลวง หยางกุ้ยเฟยต้องการเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ดังนั้นจึงตัดสินใจช่วยสี่เหอจื่อไปจากวังหลวง นึกไม่ถึงว่าสนมเหมยรู้ทันหยางกุ้ยเฟย สนมเหมยจึงจับตาดูความเคลื่อนไหวของหยางกุ้ยเฟยและสี่เหอจื่อ การที่สนมเหมยจับตาดูความเคลื่อนไหวของสี่เหอจื่อ ทำให้แผนการหลบหนีออกจากวังหลวงของสี่เหอจื่อต้องล้มเหลว หลี่ไป๋ดื่มเหล้าจนเมามาย จากนั้นก็ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา หยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวของหยิ่นม่งเหอ หยางอี้หวนมอบป้ายทองให้สี่เหอจื่อเพื่อให้นางไปจากเมืองหลวง องค์หญิงโบตั๋นและสี่เหอจื่อเคยสาบานเป็นพี่น้องกัน
เมื่อองค์หญิงโบตั๋นทรงรู้ว่าฮ่องเต้จะทรงเข้าห้องหอกับสี่เหอจื่อเท่านั้นก็ทำให้องค์หญิงทรงกริ้วขึ้นมาทันที องค์หญิงโบตั๋นทรงไม่ยอมขึ้นเกี้ยว เว้นแต่สี่เหอจื่อจะยอมขึ้นเกี้ยวด้วยกันกับพระองค์ หลี่ไป๋ส่งคำอวยพรให้หยิ่นม่งเหอ งานพิธีถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ หยางอี้หวนเห็นว่าคืนนี้สี่เหอจื่อจะต้องถวายการปรนนิบัติฮ่องเต้ ดังนั้นจึงเสนอให้สี่เหอจื่อกลับไปพักผ่อนเสียก่อน เสี่ยวเหอจื่อฉวยโอกาสนี้เปลี่ยนเสื้อผ้ากับเสี่ยวอี้ จากนั้นก็หลบหนีออกจากวังหลวง ส่วนหยิ่นม่งเหอนั้น หลังจากที่หยิ่นม่งเหอมอมเหล้าองค์หญิงโบตั๋นจนเมาแล้วก็รีบไปจากตำหนักทันที เกาลี่ซื่อสั่งให้ทหารดักซุ่มไว้แล้ว รอให้เหยื่อมาติดกับเท่านั้น หลี่ไป๋ออกอุบายจนทำให้ฮ่องเต้ทรงอยากเมาเพื่อดูว่าพระองค์จะทรงสามารถแต่งบทกวีขึ้นมาได้หรือไม่ ทันใดนั้นเองก็มีทหารเข้ามาทูลรายงานฮ่องเต้ว่าสี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอพากันหลบหนีไปจากวังหลวง แต่ก็สามารถจับกุมตัวคนทั้งสองกลับมาได้ ฮ่องเต้ทรงกริ้วมากจึงทรงมีรับสั่งให้คุมขังคนทั้งสองไว้เพื่อรอการลงโทษ หลี่ไป๋ไปเยี่ยมหยิ่นม่งเหอแล
หอชมจันทร์ก่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ทำให้ หลี่หลงจี ทรงกริ้วมากถึงกับมีรับสั่งประหารชีวิต หลี่ไป๋ เลยทีเดียว แต่เนื่องจากบทกวีบทหนึ่งซึ่งหลี่ไป๋เคยร่ำบทกวีบทนี้ขึ้นมาหลังจากที่ดื่มเหล้าจนเมามายซึ่งมีเนื้อหาว่า "เหตุใดฮ่องเต้จึงทรงรับสั่งให้ก่อสร้างหอชมจันทร์เพื่อนางปิศาจหยาง ถ้าไม่เห็นแก่อิฐแต่ละก้อน กระเบื้องแต่ละแผ่น ดุจดั่งไพร่ฟ้าประชาชน ตนอยากเผาทำลายสิ่งก่อสร้างที่เต็มไปด้วยบาปนี้เสียเหลือเกิน" หยางกั๋วจงและเกาลี่ซื่อ ฉวยโอกาสนี้ทูลใส่ไคล้ฮ่องเต้ให้ทรงเอาผิดหลี่ไป๋ ขณะที่สถานการณ์กำลังวิกฤตนั่นเอง หยางกุ้ยเฟย ได้ช่วยชีวิตหลี่ไป๋ไว้ โดยต้องการให้หลี่ไป๋แต่งบทกวีบทหนึ่งให้นาง หลี่ไป๋แต่งบทกวีบทหนึ่งจนเป็นที่พอพระทัยฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งชมเชยความสามารถทางบทกวีของหลี่ไป๋สมกับที่เป็นนักกวีอันดับหนึ่งของแผ่นดิน แม้ว่าหลี่ไป๋ได้รับอภัยโทษ ทั้งยังได้รับคำชมเชยจากฮ่องเต้ แต่กลับทำให้หยางกั๋วจงยิ่งเกิดความเคียดแค้นหลี่ไป๋เป็นทวีคูณ สี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอ หนุ่มสาวคู่รักคู่หนึ่ง เนื่องจากสี่เหอจื่อได้รับการคัดเลือกเป็นหญิงงามจึงถูกส่งตัวเข้าวังหลวง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สี่เหอจื่อและหยิ่นม่งเหอถูกบังคับให้พลัดพรากจากกัน ในวังหลวงสี่เหอจื่อทาหน้าจนดำเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของหยางกุ้ยเฟยและ สนมเหมย สี่เหอจื่อจึงถูกส่งตัวไปทำงานซักเสื้อผ้า หยิ่นม่งเหอต้องการช่วยสี่เหอจื่อ ดังนั้นจึงเข้าไปทำงานที่ตำหนักของหยางกุ้ยเฟย หยิ่นม่งเหอวางแผนและหาโอกาสได้พบหน้ากับสี่เหอจื่อ สนมเหมยและหยางกุ้ยเฟยต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ สนมทั้งสองเดิมพันตีไก่ที่พระตำหนักหลวง ถ้าหากไก่ของใครชนะ ฮ่องเต้จะทรงประทับที่ตำหนักกของผู้ชนะ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้หลี่ไป๋เป็นกรรมการ เกาลี่ซื่อดูแลเหล้าพระราชทานจากฮ่องเต้ หลี่ไป๋ดื่มเหล้าจนเมามายและได้ฆ่าไก่ชนทั้งสองตาย ทำให้ฮ่องเต้ทรงหมดอารมณ์ เฮ่อจือจาง มองออกว่าหลี่ไป๋มีความในใจ ดังนั้นจึงได้ดื่มเหล้าเ
|