กิจการของทะเลถังจี้รุ่งเรืองมาก ถังเหยินเจียเจ้าของกิจการของทะเลถังจี้ได้รับการขนานนามเป็น “ราชาเป๋าฮื้อ” ในช่วงที่ถังเหยินเจียดูแลกิจการด้วยตัวเองนั้น สกุลถังไม่ได้มีการแก่งแย่งชิงดีกันแต่อย่างใด โดยสร้างความปรองดองในครอบครัว แม้ว่ามีข่าวลือลูก ๆ ของสกุลถังแตกแยกกันก็ตาม ถังเหยินเจียกลับปฏิเสธข่าวลือ โดยพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำลายข่าวลือที่ว่านั้น
กิจการของทะเลถังจี้มีทรัพย์สินถึงหกร้อยล้านเหรียญ โดยมีหลิงลี่(หมีเซียะ)และถังจื้ออัน(เฉินหาว)ลูกเลี้ยงของเธอ รวมทั้งคนนอกสกุลเป็นผู้บริหารกิจการ แต่ลูกชายและลูกสาวในไส้ของถังเหยินเจียกลับไม่มีสิทธิมีเสียงใด ๆ ในกิจการ ถังเหยินเจียซึ่งยังไม่ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินจำนวนหกร้อยล้านเหรียญให้ ใคร แต่แล้วก็ยกทรัพย์สินจำนวนนี้ให้คนนอกสกุล หวังชุ่ยฉิน(กวานจี้อิง)ภรรยาน้อยของถังเหยินเจียต้องต่อสู้เพื่อให้ ทรัพย์สินจำนวนนี้ตกเป็นของถังจื้อฮวน(หลีนั่วอี้)ลูกชายของเธอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมาครอบครอง
กิจการของทะเลถังจี้รุ่งเรืองมาก ถังเหยินเจียเจ้าของกิจการของทะเลถังจี้ได้รับการขนานนามเป็น “ราชาเป๋าฮื้อ” ในช่วงที่ถังเหยินเจียดูแลกิจการด้วยตัวเองนั้น สกุลถังไม่ได้มีการแก่งแย่งชิงดีกันแต่อย่างใด โดยสร้างความปรองดองในครอบครัว แม้ว่ามีข่าวลือลูก ๆ ของสกุลถังแตกแยกกันก็ตาม ถังเหยินเจียกลับปฏิเสธข่าวลือ โดยพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำลายข่าวลือที่ว่านั้น
กิจการของทะเลถังจี้มีทรัพย์สินถึงหกร้อยล้านเหรียญ โดยมีหลิงลี่(หมีเซียะ)และถังจื้ออัน(เฉินหาว)ลูกเลี้ยงของเธอ รวมทั้งคนนอกสกุลเป็นผู้บริหารกิจการ แต่ลูกชายและลูกสาวในไส้ของถังเหยินเจียกลับไม่มีสิทธิมีเสียงใด ๆ ในกิจการ ถังเหยินเจียซึ่งยังไม่ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินจำนวนหกร้อยล้านเหรียญให้ ใคร แต่แล้วก็ยกทรัพย์สินจำนวนนี้ให้คนนอกสกุล หวังชุ่ยฉิน(กวานจี้อิง)ภรรยาน้อยของถังเหยินเจียต้องต่อสู้เพื่อให้ ทรัพย์สินจำนวนนี้ตกเป็นของถังจื้อฮวน(หลีนั่วอี้)ลูกชายของเธอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมาครอบครอง
|